ซีเค พาวเวอร์ เดินหน้ากลยุทธ์ "C-K-P" พัฒนาพลังงานหมุนเวียน ร่วมสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (CKPower) หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด มีวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ที่มีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำที่สุดรายหนึ่ง ควบคู่กับการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม รับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน รวมทั้งส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในชุมชนและสังคม สอดคล้องตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

 

 

โดยที่ผ่านมา ซีเค พาวเวอร์ มุ่งเน้นการดำเนินกระบวนการบริหารจัดการที่สะท้อนทิศทางและเป้าหมายความยั่งยืนที่ชัดเจนโดยได้กำหนดกรอบแนวคิดด้านความยั่งยืนภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก "C-K-P" ที่ครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ

สำหรับมิติสิ่งแวดล้อม C – Clean Electricity หรือไฟฟ้าสะอาด บริษัทมุ่งมั่นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการพลังงาน ด้านการจัดการพลังงาน รับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมคงไว้ซึ่งศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้อย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพ

 

 

ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้ทั้งหมด 93% ของกำลังผลิตติดตั้ง และสามารถผลิตไฟฟ้าสะอาดส่งให้ประเทศไทยได้กว่า8.8 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) หรือคิดเป็นกว่า 16% ของไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้ในประเทศ และสามารถหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ทั้งพลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ ให้ได้มากกว่า 95% ภายในปี 2586 รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าภายในองค์กรที่มาจากพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100 % จากปี 2567 มีสัดส่วนประมาณ 93%

 

 

“CKPower มุ่งมั่นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับประเทศไทย พร้อมกับสานต่อกลยุทธ์ด้านการจัดการพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามมาตรฐานสากล รวมถึงแนวปฏิบัติการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่สามารถหวังผลในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2593”

 

 

มิติสังคม K – Kind Neighbor หรือ เพื่อนบ้านที่ดี ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน มุ่งสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน สังคม และผู้มีส่วนได้เสียทั้งทางตรงและทางอ้อม ควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากลตลอดห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ

ในปี 2567 บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการดูแลชุมชนและสังคม โดยได้นำความสามารถทางวิศวกรรมพลังงานหมุนเวียน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตชุมชนและสังคมสะสมแล้ว 100,330 วัตต์ เด็กและเยาวชนได้รับการส่งเสริมความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนสะสม 9,513 คน

 

 

อีกทั้ง บริษัทมีการอนุรักษ์ปกป้องฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยได้เพิ่มพื้นที่อนุรักษ์ปกป้องฟื้นฟูป่าบก 11.06 ไร่ เด็กและเยาวชนได้รับความรู้ด้านการปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4,377 คน และสามารถสร้างความมั่งคงทางอาชีพ ต่อยอดนวัตกรรม สร้างโอกาสพัฒนาอาชีพชุมชน โดยที่ผ่านมาชุมชนได้รับการพัฒนา 3 ผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้ชุมชนสะสม 884,350 บาท

ขณะที่การดำเนินงานด้านการเคารพสิทธิมนุษยชน ได้สร้างความตระหนักรู้ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับพนักงานได้ 100% มีการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่อุปทานทุก 3 ปี และได้ตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน พร้อมกำหนดมาตรการบรรเทา แก้ไข และเยียวยา ผลกระทบ 100% ตลอดจนไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดห่วงโซ่คุณค่า

 

 

มิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ P – Partnership for Life หรือ พันธมิตรที่ยั่งยืน มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพในการรับมือกับความท้าทายทางธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการลงทุนในโอกาสทางธุรกิจใหม่ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคอาเซียน พร้อมทั้งบูรณาการนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับการดำเนินธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับภูมิภาค และส่งมอบผลตอบแทนที่เป็นธรรมและยั่งยืนแก่ลูกค้าและผู้ถือหุ้น

โดยในปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่และเพิ่มพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ในภูมิภาคอาเซียน สามารถเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด 3,402 เมกะวัตต์ รวมถึง การประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนโดยประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมสะสม 19 ชิ้นงานและมีนวัตกรสะสม 68 คน

 

 

พร้อมกันนี้ บริษัทได้ยังขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน ของบริษัท บางเขนชัย จำกัด โดยร่วมกับบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด (INNOPOWER) ขายใบรับรองเครดิตการผลิตพลังงานหมุนเวียน (RECs) จำนวน 39,660.46 RECs และร่วมกับบริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ศึกษาความเป็นไปได้ในการนำ RECs ของบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด (XPCL) โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ แบบน้ำไหลผ่านใน สปป.ลาว เข้าสู่แพลตฟอร์ม ReAcc เพื่อทำการขาย RECs ร่วมกัน CKPower ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตผ่านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำประเทศไทยก้าวสู่ สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน