นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน เตรียมของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน โดยจะพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซล และจะพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้า 2 กลุ่ม เดิมจะสิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้ ได้แก่
กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 300 หน่วยต่อเดือน จ่ายค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือเอฟที เท่าต้นปี 65 และกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 300-500 หน่วยต่อเดือน จ่ายค่าเอฟที แบบขั้นบันได
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะต่ออายุอีกหรือไม่ ต้องรอสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือกกพ. ประกาศค่าเอฟที รอบเดือน ม.ค.- เม.ย. 66 ช่วงต้นเดือนธ.ค. 65 อีกครั้ง และในเดือนพ.ย. 65 จะชัดเจนเรื่องกู้เงิน โดยเฉพาะการเปิดให้สถาบันทางการเงินยื่นข้อเสนอตามแผนการกู้เงินส่วนแรก 30,000 ล้านบาท
และส่วนที่ 2 อีก 1.2 แสนล้านบาท โดยจะทยอยกู้เป็นก้อนเล็ก ๆ ตามความเหมาะสม เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันยังมีความผันผวน แต่เชื่อมั่นว่ากลางปี 66 ราคา น้ำมันมีแนวโน้มที่จะลดลงกว่านี้แน่นอน
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า เมื่อต้นปี 65 มีสัญญาณภาระโลกขึ้นมา คือ เรื่องสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่เกิดแซงชั่น และแยกขั้วกัน นำไปสู่การไม่สมดุลในการผลิต โดยรัสเซียเป็นประเทศที่ผลิตพลังงานรายใหญ่ และส่งซัพพลายให้ยุโรปตลอดเวลานานเป็นหลายสิบปี แต่วันดีคืนดีตัดสัมพันธ์ทางการค้า ทำให้เลิกส่งพลังงานให้กัน จึงเกิดวิกฤติพลังงานทันที ซ้ำเติมที่กำลังรอการผลิตให้กลับมาปกติ ส่งผลให้ราคาพลังงานโดดขึ้นมา ทำให้เกิดความกังวล
"รัฐบาลพยายามหามาตรการด้านต่าง ๆ และการช่วยเหลือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปตรึงราคาและรักษาความสามารถการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน"