ด่วน! กบน. ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 423 บาทต่อถึงสิ้น ก.ย.

30 ส.ค. 2566 | 07:10 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ส.ค. 2566 | 07:49 น.

ด่วน! กบน. ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมต่อถึงสิ้น ก.ย. หลังมาตรการเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค. 66

นายวิศักดิ์ วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเะพลิง (กบน.) มีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือน หรือแอลพีจี (LPG) ไว้ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมออกไปอีก 1 เดือนจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 66 จากเดิมที่จะสิ้นสุดมาตรการวันที่ 31 ส.ค. 66

ทั้งนี้ กบน. ได้พิจารณาแนวทางการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
 

โดย LPG มีราคาสูงกว่า 363 บาทซึ่งเกินกว่าระดับราคาที่เหมาะสมสำหรับถัง 15 กิโลกรัมตามแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ถือเป็นวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังต้องเข้าไปรักษาเสถียรภาพด้านราคาตามแผนรองรับวิกฤตอยู่ กบน.จึงใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาเสถียรภาพราคา LPG ให้เป็นไปตามกรอบเป้าหมายราคาขายปลีก LPG ที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนด ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน 

สำหรับสถานการณ์ราคา LPG Cargo ในตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยในช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 442.93 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 26.98 เหรียญสหรัฐต่อตันจากเดือนมิถุนายน 2566  และราคาเฉลี่ยช่วงวันที่ 7 – 18 สิงหาคม 2566 อยู่ที่ 561.72 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบกับราคาก๊าซ LPG ยังคงเป็นในเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การตึงตัวของราคาน้ำมัน

และการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ อังกฤษ สหภาพยุโรป เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีก LPG ในประเทศ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชนจนมากเกินไป กบน.จึงเห็นควรให้กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุน สำหรับก๊าซ LPG เพื่อให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG อยู่ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อไปถึง 30 กันยายน 2566 
 

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ วันที่ 27 สิงหาคม 2566 ติดลบอยู่ที่ 55,091 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • บัญชี LPG ติดลบ 44,716 ล้านบาท
  • บัญชีน้ำมันติดลบ 10,375 ล้านบาท