หลังจากที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เตรียมที่จะแก้ไขกฎหมาย เพื่อกำหนด ค่าการตลาดราคาน้ำมันไม่เกิน 2 บาทต่อลิตรทุกชนิดน้ำมัน และหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามจะมีการเพิ่มบทลงโทษ โดยที่มีการหารือร่วมกับ คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อวางแนวทางในการปรับแก้กฎหมายต่อไป
โดยระบุว่า ที่ผ่านมาเคยขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ในการกำหนดค่าการตลาดที่ไม่เกิน 2 บาท แต่จะต่ำกว่าไม่เป็นไร แต่ปัจจุบันในบางรายมีค่าการตลาดสูงถึง 4 บาทต่อลิตร
สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่นายพีระพันธุ์หารือกับหน่วยงานในสังกัด ในการกำกับดูแลราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินให้มีค่าการตลาดอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม ประมาณ 2 บาทต่อลิตร โดยมองว่าราคาน้ำมันเบนซินที่มีราคาแพงในปัจจุบัน เป็นเพราะส่วนของ ค่าการตลาด ซึ่งผู้ประกอบการมีการกำหนดค่าตลาดที่สูงมาก
กระทรวงพลังงานจึงได้หารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงถือเป็นสินค้าควบคุม จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลเรื่องค่าการตลาด เพื่อให้อยู่ในกรอบที่กระทรวงพลังงานกำหนด
ต่อเรื่องดังกล่าวนายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ (OR) ระบุว่า ปัจจุบันค่าการตลาดน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลที่โออาร์ได้รับไม่ได้สูงตามที่ถูกวิจารณ์ ไม่ถึง 3 บาทต่อลิตร โดยปัจจุบันโออาร์ได้เฉลี่ย 2 บาทต่อลิตรเท่านั้น
ส่วนสาเหตุที่ค่าการตลาดที่โออาร์ได้รับและสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กำหนดต่างกันมาจากสูตรราคาที่ต่างกัน โดยโออาร์มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากสูตรที่ สนพ.กำหนด
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะหมดไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 โดยค่าการตลาดจะกลับมาเท่ากัน เพราะประเทศไทยจะบังคับใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร5 ที่คุณภาพน้ำมันจะดีขึ้นเพราะเหลือระดับ 10 พีพีเอ็ม จากปัจจุบันระดับ50 พีพีเอ็ม
นอกจากนี้ สนพ.ยังอยู่ระหว่างให้ที่ปรึกษาเข้าพิจารณาต้นทุนค่าการตลาดใหม่คาดจะชัดเจนเดือนพฤศจิกายนนี้
อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่าโออาร์ไม่ได้เอาเปรียบประชาชน ไม่คดโดง การปรับราคาขี้นลงได้หารือกับกรมธุรกิจพลังงานทุกครั้ง อย่างข้อมูล สนพ. ที่แจ้งโครงสร้างราคาน้ำมันรายวัน น้ำมันเบนซินค่าการตลาด 3.20-3.30 บาทต่ลิตร แต่โออารได้จริง 1.90-2.00 บาทต่อลิตร ส่วนต่าง 1.20-1.30 บาทต่อลิตร และเคยสูงสุดถึง 1.60 บาทต่อลิตร
ขณะที่ดีเซลค่าการตลาดโออาร์และสนพ.ใกล้เคียงกันอยู่ระดับ 1.50 บาทต่อลิตร เพราะมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและภาษีกำกับใกล้ชิด
"ฐานเศรษฐกิจ" ตรวจสอบพบว่า ค่าการตลาดน้ำมัน ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566 ดังนี้