รายงานข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือบอร์ด ปตท. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ที่ประชุมถกเถียงกันอย่างหนักหลายชั่วโมงในการเปลี่ยนตัวประธานบอร์ดปตท. คนใหม่ เพื่อให้การทำงานของบริษัทมีความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล จนท้ายที่สุดแผนการเปลี่ยนตัวประธานบอร์ดของผู้มีอำนาจทางการเมืองก็สัมฤทธิ์ผลเมื่อนายทศพร ศิริสัมพันธ์ ทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดปตท.
ที่ประชุมบอร์ดปตท.ได้หารือกันว่าหลังจากนายทศพรลาออกแล้ว จะมีการแต่งตั้งนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ขึ้นมาเป็นประธานบอร์ดปตท.คนใหม่ พร้อมกับจะมีการแต่งตั้งกรรมการเพิ่มอีก 2 คนเพื่อทดแทนตำแหน่งนายทศพร และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ลาออกจากตําแหน่งกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา
ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2509 ปัจจุบัน อายุ 57 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพลังงาน
วุฒิการศึกษา
ประวัติการอบรม
ประสบการณ์การทำงาน
การดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำหรับแผนการเปลี่ยนประธานบอร์ดปตท. เกิดขึ้นหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หลังจากการประชุมบอร์ด ปตท. 2 ครั้งก่อนหน้านี้ คือ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 และวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ได้มีการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงปตท. ทดแทนตำแหน่งเดิมที่จะเกษียณอายุในวันที่ 1 ตุลาคม 2566
แต่ปรากฏว่าที่ประชุมได้ถอนวาระดังกล่าวออกไปโดยไม่มีกำหนด ท่ามกลางกระแสข่าวผู้มีอำนาจฝ่ายการเมืองต้องการเปลี่ยนตัวประธานกรรมการ และกรรมการ ปตท. ชุดใหม่ เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล
จากกรณีดังกล่าวทำให้นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ทำหนังสือร้องเรียนถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เรื่อง การตีความข้อบังคับของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) อย่างเคร่งครัด ซึ่งก.ล.ต.ได้ทำหนังสือตอบกลับถึงบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับข้อร้องเรียนดังกล่าวถึงปตท. ให้คณะกรรมการและผู้บริหารของปตท.ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 89/7 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
โดยต้องดำเนินกิจการของบริษัทด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับบริษัท เพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นโดยรวม และหากมีเหตุที่จะต้องตีความข้อบังคับให้พิจารณาตามความประสงค์ในทางสุจริตเป็นสำคัญเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของข้อบังคับดังกล่าว
แต่สุดท้ายนายทศพรทนแรงกดดันไม่ไหว จึงขอลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดปตท.