สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (1 มี.ค.) หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะพิจารณาขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจไปจนถึงไตรมาส 2/2567 เพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาด และอาจขยายการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.19% ปิดที่ 79.97 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้นมากกว่า 4.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.0% ปิดที่ 83.55ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้นราว 2.4% ในรอบสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้โอเปกพลัสมีมติในเดือนพ.ย. 2566 ในการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 1/2567
แหล่งข่าวระบุว่า โอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะขยายการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจไปจนถึงไตรมาส 2/2567 ขณะที่แหล่งข่าวอีก 2 รายระบุว่า โอเปกพลัสอาจขยายการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ดี โอเปกพลัสยังไม่ได้มีการหารืออย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการขยายการปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าว แต่คาดว่าโอเปกพลัสจะจัดการประชุมช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมี.ค.เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว
ซึ่งผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า โอเปกผลิตน้ำมัน 26.42 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 90,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนม.ค.
การคาดการณ์ที่ว่า ซาอุดีอาระเบียจะยังคงตรึงราคาขายน้ำมันดิบให้กับลูกค้าในเอเชียในเดือนเม.ย. ซึ่งแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับในเดือนมี.ค.นั้น ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มฮูตียังคงทำการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในตลาด