เปิด 3 แนวทางส.อ.ท.ชงรัฐบาล "ตรึงดีเซล 30 บาท"

08 มี.ค. 2567 | 01:53 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มี.ค. 2567 | 01:53 น.

เปิด 3 แนวทางส.อ.ท.ชงรัฐบาล "ตรึงดีเซล 30 บาท" ชี้ควรหามาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นกลุ่มเปราะบางและจะมีผลกระทบ แนะหันมาพิจารณาการพึ่งพาพลังงานภายในประเทศให้มากขึ้น

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า รัฐบาลควรพิจารณา 3 แนวทาง เพื่อตรึงราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับไม่เกินลิตรละ 30 บาท โดยควรหามาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นกลุ่มเปราะบางและจะมีผลกระทบ เช่น กลุ่มรถขนส่ง รถรับจ้าง ฯลฯ 

ทั้งนี้ เพื่อลดภาระการอุดหนุนลงเพราะสุดท้ายการอุดหนุนที่มากเมื่อราคาตลาดโลกลดผู้ที่จะต้องกลับมาใช้หนี้คือประชาชนอยู่ดี ,หันมาพิจารณาการพึ่งพาพลังงานภายในประเทศให้มากขึ้น เพราะราคาพลังงานตลาดโลกนั้นมีความผันผวนสูง และมีค่าเงินบาทที่หากอ่อนค่าก็จะยิ่งจ่ายแพงเพิ่มขึ้นอีก 

ควรหันมามองการพึ่งพาภาคการเกษตรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพผลิตได้ทั้งเอทานอล ไบโอดีเซล หรือแม้กระทั่งการวิจัยด้านอื่น เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งหากรัฐส่งเสริมและปรับโครงสร้างการผลิตให้ดีไม่ต้องเสียภาษี ต้นทุนสามารถลดต่ำลงได้อย่างมาก จะช่วยลดการนำเข้าน้ำมัน
 

ส่วนอีกแนวทางให้ลดการพึ่งพิงนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศให้ลดต่ำลง ควรมีแผนระยะกลาง และระยะยาวในการกำหนดยุทธศาสตร์ ซึ่งขณะนี้โลกกำลังก้าวไปสู่พลังงานสะอาดที่ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงควรหาพลังงานทดแทนให้มากขึ้น เช่น ส่งเสริมติดโซลาร์เซลล์ ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ที่จะช่วยลดมลพิษแล้ว ยังจะช่วยลดการใช้ไฟที่เกินความต้องการ และจะไปลดค่าพร้อมจ่าย หรือเอพีที่ประชาชนต้องแบกรับ โดยค่าพร้อมจ่ายเป็นการจ่ายเงินให้โรงไฟฟ้าทุกโรงไฟฟ้าแม้ว่าจะไม่มีการเดินเครื่อง

นายอิศเรศ กล่าวอีกว่า ข้อเสนอทั้ง 3 ข้อนี้ เป็นการบริหารจัดการนอกเหนือจากการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาอุดหนุน จนล่าสุดวันที่ 3 มี.ค. กองทุนฯ ติดลบแล้วกว่า 93,498 ล้านบาท เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ให้ประชาชนเสพติดของถูก และไม่เห็นด้วยที่จะต้องปรับขึ้นราคาไปสู่ระดับลิตรละ 32 บาท เป็นการซ้าเติมประชาชนที่ขณะนี้กำลังประสบปัญหาค่าครองชีพที่สูง"

จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิล่าสุดวันที่ 3 มี.ค. 67 ติดลบ 93,498 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 46,742 ล้านบาท บัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือแอลพีจี ติดลบ 46,756 ล้านบาท 
 

โดยเงินกองทุนฯ ยังไหลออกต่อเนื่องจากการอุดหนุนราคาดีเซล วันที่ 5 มี.ค. 67 อยู่ระดับลิตรละ 4 บาท เพราะราคาดีเซลตลาดโลกยังคงราคาทรงตัวระดับสูง ซึ่งจากการประมาณการเบื้องต้นแล้วหากการอุดหนุนเฉลี่ยอยู่ในระดับดังกล่าวคาดว่าฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิจะติดลบระดับ 100,000 ล้านบาทภายในสิ้น มี.ค. 67 หรือต้น เม.ย. 67

"ขณะนี้เงินไหลออกส่วนใหญ่เป็นการชดเชยราคาดีเซล เพื่อตรึงราคาขายไว้ไม่เกินลิตรละ 30 บาท ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งลิตรละ 4 บาท ทำให้เงินไหลออกวันละ 2,000 ล้านบาท หากอยู่ระดับนี้ จะแตะแสนล้านบาทในสิ้น มี.ค.หากดีเซลตลาดโลกปรับลดจะเลื่อนไปเป็นช่วงเม.ย.นี้"