"เลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซล" พลังงานจ่อทยอยปรับขึ้น หลังกองทุนน้ำมันฯหมดงบ

มาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค. 67 

ล่าสุดแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) จะหารือถึงแนวทางการการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปช่วยอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศให้อยู่ที่ระดับไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร หรือราคาปัจจุบัน 29.94 บาทต่อลิตร ซึ่งจะสิ้นสุด 31 มี.ค. 67 นี้ 

ทั้งนี้ เนื่องจากสถานะกองทุนน้ำมันฯคาดว่าจะติดลบระดับ 100,000 ล้านบาทภายใน 31 มี.ค. เพื่อหาแนวทางในการบริหารที่จำเป็นต้องอาศัยกลไกจากกระทรวงการคลังโดยการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ลดลง 1 บาทต่อลิตรในการช่วยตรึงราคาดีเซลควบคู่กับกลไกกองทุนน้ำมัน

อย่างไรก็ดี ทางระดับผู้บริหารเริ่มหารือเบื้องต้นกับกรมสรรพสามิตอยู่ซึ่งยอมรับว่า หากยังคงลดในอัตราเดิมจำเป็นจะต้องปรับเพดานราคาดีเซลเพิ่มขึ้นเกิน 30 บาทต่อลิตรค่อนข้างมาก แต่จะใช้วิธีทยอยปรับขึ้นครั้งละ 0.50-1 บาทต่อลิตร 

โดยดูช่วงจังหวะของราคาน้ำมันโดยจะปรับเป็นขั้นบันไดเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน แต่หากลดภาษีฯดีเซลได้มากขึ้นก็จะผ่อนการขยับราคาได้ดีกว่า คงจะต้องรอผลสรุปจากกรมสรรพสามิตรเป็นหลัก

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หากจะตรึงราคา 30 บาทต่อลิตรต่อก็สามารถใช้งบประมาณจากรัฐเข้ามาดูแล แต่ประเด็นดังกล่าวนี้ก็ไม่แน่ใจว่ารัฐจะมีหรือไม่ ขณะที่กลไกภาษีสรรพสามิตดีเซลนั้นก็คงจะต้องไม่ไปกระทบกับรายจ่ายประจำ แต่อะไรที่เห็นว่าไม่ใช่โครงการเร่งด่วนชะลอแล้วลดภาษีฯ เพิ่มให้มากกว่า 1 บาทต่อลิตรก็คงจะต้องหารือในแนวนี้ 

ขณะที่อีกส่วนการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อตรึงไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร เริ่ม 20 ม.ค.-19 เม.ย. 67 รัฐเองก็อาจจะพยายามดูแลดีเซลในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งก็คงต้องผลการหารือ

สำหรับฐานะของกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 17 มี.ค.67 ติดลบ 96,720 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 49,339 ล้านบาท บัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ติดลบ 46,931 ล้านบาท 

ขณะที่อัตราการชดเชยดีเซลจากกองทุนน้ำมันฯ วันที่ 25 มี.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 4.65 บาทต่อลิตร และหากดูแนวโน้มราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกยังคงเฉลี่ยอยู่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลทำให้แนวโน้มการชดเชยจะอยู่ในระดับ 4 บาทต่อลิตรจึงส่งผลให้กองทุนน้ำมันจะแตะ 100,000 ล้านบาทในสิ้นเดือนมี.ค.

“เวลานี้เหลือเงินในการบริหารจากการทยอยกู้มาตรึงราคาดีเซลประมาณ 25,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะพอดีในการดูแลตรึงดีเซลในช่วงสิ้นเดือน มี.ค. พอดี ยกเว้นแต่ดีเซลโลกจะลงแรง แต่สิ่งสำคัญคือเราจะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพราะจะครบดีลต้องจ่ายหนี้ก้อนแรกที่กู้มา 30,000 ล้านบาทในเดือนพ.ย.นี้ โดยเป็นการทยอยกู้ครั้งละ 5,000 ล้านบาท ซึ่งก็จะต้องทยอยใช้คืนตามที่กู้มาเป็นล็อตไป ซึ่งการจะไปกู้เพิ่มจากสถาบันการเงินใดคงจะยากแล้วเพราะเงินยังไม่เห็นหนทางจะไหลเข้าเลยมีแต่ควักจ่ายจากภาวะน้ำมันที่ยังคงผันผวนในแนวโน้มขาขึ้น”