"พลังงาน" เตรียมขายอุปกรณ์ "โซลาร์เซลล์" ราคาถูกปีหน้า มุ่งลดค่าไฟประชาชน

21 พ.ย. 2567 | 05:08 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2567 | 05:09 น.

"พลังงาน" เตรียมขายอุปกรณ์ "โซลาร์เซลล์" ราคาถูกปีหน้า มุ่งลดค่าไฟประชาชน หลังศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย พัฒนาเครื่อง Inverter

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ได้ดำเนินการพัฒนาเครื่อง Inverter ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักของระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์เซลล์ ที่เป็นผลงานการออกแบบของ นายทวีชัย ไกรดวง หรือ ครูน้อย 

ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังช่วยลดภาระค่าไฟให้กับประชาชนด้วยโซลาร์เซลล์ที่มีราคาไม่สูงมาก และเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่สามารถประหยัดค่าไฟได้

สำหรับการลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนตามที่เคยนำเสนอมี 2 เรื่อง ประกอบด้วย การปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์ รูฟ ให้ทำได้สะดวกรวดเร็วขึ้น  

"พลังงาน" เตรียมขายอุปกรณ์ "โซลาร์เซลล์" ราคาถูกปีหน้า มุ่งลดค่าไฟประชาชน

และการจัดหาอุปกรณ์สำหรับผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ประชาชนในราคาถูก เพราะถึงแม้กระทรวงพลังงานจะพยายามตรึงค่าไฟไว้ที่ระดับ 4.18 บาท โดยไม่ได้ขยับขึ้นมาตลอด แต่เข้าใจว่าปัญหาค่าไฟก็ยังเป็นภาระของพี่น้องประชาชนอยู่ 

สิ่งที่จะลดปัญหาค่าไฟได้อย่างยั่งยืน ก็คือ การปรับปรุงกฎหมาย และการจัดหาอุปกรณ์ระบบโซลาร์ราคาถูก ซึ่งเป็นการลงทุนเพียงครั้งเดียวแต่สามารถประหยัดค่าไฟไปได้มาก
 

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน อุปกรณ์เกี่ยวกับระบบโซลาร์ในท้องตลาดมีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น สิ่งที่จะดำเนินการต่อเนื่องจากการปรับปรุงกฎหมาย ก็คือ การผลิตอุปกรณ์ระบบโซลาร์เซลล์ ที่เรียกกันว่าโซล่า รูฟ  ออกจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาถูก และถือเป็นครั้งแรกของกระทรวงพลังงานที่มีนโยบายในแนวทางดังกล่าวนี้  

"ล่าสุดคณะทำงานของกระทรวงพลังงานได้ผลิตต้นแบบของเครื่องอินเวอร์เตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้สำเร็จแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพ ความเสถียร และความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างครบชุดเพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนได้ในปี 68”