มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวดันยอดใช้น้ำมัน 11 เดือนเพิ่ม 2%

09 ม.ค. 2568 | 05:28 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ม.ค. 2568 | 05:28 น.

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวดันยอดใช้น้ำมัน 11 เดือนเพิ่ม 2% สอดคล้องกับประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2567 ที่ระดับ 2.6-2.7% ระบุดีเซลหมุนเร็วที่สถานีบริการขยายตัว 2.4% เบนซินขยับเล็กน้อย 0.02%

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยในช่วง 11 เดือน (ม.ค.– พ.ย.67) ว่า อยู่ที่ 155.22 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2567 ที่ระดับ 2.6-2.7% จากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี

โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่สถานีบริการเพิ่มขึ้น 2.4% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1)เพิ่มขึ้น 18.4% การใช้ LPG เพิ่มขึ้น 3.4% และกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.02% ขณะที่การใช้น้ำมันเตาลดลง 7.2% และ NGV ลดลง 16.7% 

สำหรับรายละเอียดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดในเดือนมกราคม–พฤศจิกายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย
 

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.55 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.02% จากการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.98 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.40 ล้านลิตร/วัน ขณะที่แก๊สโซฮอล์ อี20 ลดลงมาอยู่ที่ 5.42 ล้านลิตร/วัน เบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 0.41 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลงมาอยู่ที่ 0.07 ล้านลิตร/วัน 

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวดันยอดใช้น้ำมัน 11 เดือนเพิ่ม 2%

ทั้งนี้ ในภาพรวมแม้ว่าการท่องเที่ยวในประเทศจะขยายตัวแต่การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า (BEV HEV และ PHEV) คิดเป็น 5.39% ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน2 รวมถึงการใช้งานระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีการขยายตัวของผู้โดยสาร 12.143%

การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่สถานีบริการ เฉลี่ยอยู่ที่ 66.66 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 2.4% ประกอบด้วย ดีเซลหมุนเร็วธรรมดา เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 66.51 ล้านลิตร/วัน ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ การขยายตัวของภาคการส่งออกสินค้า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการท่องเที่ยวและการจัดอบรมสัมมนาในจังหวัดท่องเที่ยวรองและในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม – 30 พฤศจิกายน 2567 รวมทั้งในภาคการเกษตรสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรยังขยายตัวได้ดีในหมวดพืชผลสำคัญ ขณะที่ดีเซลหมุนเร็วบี20 ลดลงมาอยู่ที่ 0.15 ล้านลิตร/วัน และดีเซลพื้นฐาน ลดลงมาอยู่ที่ 1.96 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากในปีก่อนมีการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้า ทั้งนี้ภาพรวมปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลอยู่ที่ 68.62 ล้านลิตร/วัน

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 15.73 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 18.4% โดยมีปัจจัยมาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 31.9 ล้านคน คิดเป็น 28.2% ประกอบกับมาตรการในช่วงปลายปี 2567 กระตุ้นการท่องเที่ยวไทย สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนคนไทยขยายตัว 8.594% รวมไปถึงการขยายตัวของบริการขนส่งสินค้าทางอากาศด้วยเช่นกัน

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 18.40 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้น 3.4% ประกอบด้วยการใช้ในภาคปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.29 ล้านกก./วัน ภาคครัวเรือน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.78 ล้านกก./วัน ภาคขนส่ง เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.32 ล้านกก./วัน จากการขยายตัวของกลุ่มรถแท็กซี่เป็นสำคัญ และภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.01 ล้านกก./วัน

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 2.79 ล้านกก./วัน ลดลง 16.7% โดยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับจำนวนรถจดทะเบียน NGV สะสม และจำนวนสถานีบริการ NGV ที่มีแนวโน้มปิดตัวลง ทั้งนี้ ปตท. ยังคงช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้กับกลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะที่ถือบัตรสิทธิประโยชน์ ปัจจุบันดำเนินการอยู่ในระยะที่ 2 (1 กรกฎาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2568)

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยอยู่ที่ 1,037,176 บาร์เรล/วัน ลดลง 1.2% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 93,900 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 981,548 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 0.7% คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 89,989 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 55,627 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 26.7 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 3,911 ล้านบาท/เดือน

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เฉลี่ยอยู่ที่ 186,067 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 4.4% เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 17,933 ล้านบาท/เดือน