thansettakij
AGE ดัน 4 ธุรกิจหลักสู่กรีน ลดรายได้ถ่านหินปี 73 เหลือ 50%
net-zero

AGE ดัน 4 ธุรกิจหลักสู่กรีน ลดรายได้ถ่านหินปี 73 เหลือ 50%

    AGE เร่งขับเคลื่อน 4 ธุรกิจหลัก เป้าปี 2573 ลดสัดส่วนจากรายได้ถ่านหินเหลือ 50% ดันธุรกิจพลังงาน โลจิสติกส์ ขายและเช่ารถยนต์อีวีโต 50% ตั้งเป้าขายถ่านหินปีนี้ 4 ล้านตัน

บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE และบริษัทย่อย มีการดำเนินธุรกิจถ่านหิน ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร และธุรกิจพลังงานทดแทน โดยได้ปรับโครงสร้างธุรกิจสู่ความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด ESG ผ่านการขับเคลื่อนใน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน (Coal Related) ธุรกิจโลจิสติกส์ (Smart Logistics) ธุรกิจพลังงานยั่งยืน (Sustainable Energy) และธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) เพื่อให้สอดรับกับแผนนโยบายใหม่ของบริษัทฯ

โดยตั้งเป้า EBITDA ในปี 2573 ของบริษัทฯ สัดส่วนรายได้จากธุรกิจถ่านหินจะปรับเป็น 50% และสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ (Non-Coal) ขยับขึ้นเป็น 50%

นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินงานในปี 2568 บริษัทได้เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่ Green Business ตอบโจทย์การสร้างอัตราการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน หลังจัดโครงสร้างธุรกิจดึงบริษัท ABM มาเป็น flagship ใหม่ของกลุ่มบริษัทฯ

AGE ดัน 4 ธุรกิจหลักสู่กรีน ลดรายได้ถ่านหินปี 73 เหลือ 50%

โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมกว่า 10% หรือกว่า 17,000 ล้านบาท จากปี 2567 มีรายได้อยู่ที่ 14,719 ล้านบาท คิดเป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจถ่านหินราว 77.1% ธุรกิจพลังงานยั่งยืน 17.6% ธุรกิจโลจิสติกส์ 4.2% และธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) 1.1 %

สำหรับการเติบโตของรายได้จะมาจาก การจำหน่ายถ่านหินที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4 ล้านตันต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อนที่จำหน่ายได้ 3.8 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะสร้างรายได้ราว 13,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นรายได้ในสัดส่วนที่ 75% ขณะที่รายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์ จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 5% จากการขยายฐานลูกค้าภายนอก ในภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรเพิ่มเป็น 50 % หรือมีรายได้ราว 1,900 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจพลังงานยั่งยืน ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท จากการเพิ่มปริมาณการจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวล และจากการเข้าซื้อหุ้นบริษัท กรีน อาร์ดีเอฟ จำกัด (GRDF) ส่งผลให้สามารถจำหน่ายเชื้อเพลิงจากขยะหรือ RDF ได้ที่ 60,000 ตัน โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ในส่วนนี้ไว้ 200 ล้านบาท รวมถึงการรับรู้รายได้จากกำลังผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4.6 เมกะวัตต์ หลังจากการเข้าไปลงทุนในบริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 23.92% ช่วงที่ผ่านมา

ถือเป็นการสร้างโอกาสและการต่อยอดด้านการลงทุนในธุรกิจพลังงานในอนาคต เนื่องจาก QTC ดำเนินธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) และธุรกิจ EV ซึ่งในปีนี้บริษัทจะดำเนินการติดตั้ง Solar roof ที่คลังสินค้าเพิ่มเติม

จากที่ผ่านมาได้ติดตั้งไปแล้วขนาด 554 kWh โดยในปี 2566 สามารถช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้ 568,085.98 kWh หรือ ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 2,289,194.43 บาท และสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทที่ 2 ได้ 330.68 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ และตลอดระยะเวลาที่ดำเนินการ สามารถลดไปได้แล้ว 1,343.87 ตันคาร์บอนไดออกไซด์

ขณะที่การลงทุนในธุรกิจ Human Solutions (Diversified Investments) ภายใต้บริษัทย่อย “เอจีอี เวนเจอร์ส” หรือ AGEVT ได้จัดตั้งบริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการเช่ารถ Taxi EV โดยปีที่ผ่านมาปลอยเช่าไปแล้ว 30 คัน และปัจจุบันปล่อยเช่าแล้ว 50 คัน บริษัทฯ ตั้งเป้าปล่อยเช่า Taxi EV ในปีนี้รวม 150 คัน คาดสร้างรายได้ราว 33 ล้านบาท

รวมถึงธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด ปีนี้ตั้งเป้าเปิด 3 โชว์รูม รวมเป็น 6 โชว์รูม ภายใต้แบรนด์ OMODA & JAECOO, Mitsu, Zeekr,และ AION ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 1,500 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 137 ล้านบาท