อียู เคาะมาตรการปรับคาร์บอนฯ บังคับใช้1ต.ค.66

26 ธ.ค. 2565 | 07:59 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ธ.ค. 2565 | 15:07 น.

อียู เคาะมาตรการปรับคาร์บอนฯ  ขยายเพิ่ม 7 กลุ่ม บังคับใช้ 1 ต.ค. 66 และใช้เต็มรูปแบบ 1 ม.ค. 69 ย้ำ! ผปก.ไทยคำนวณการปล่อยก๊าซฯลดภาระซื้อใบรับรอง CBAM ในอนาคต

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการออกมาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ของสหภาพยุโรป (อียู) โดยล่าสุด การประชุม 3 ฝ่าย ระหว่างคณะกรรมาธิการยุโรป รัฐสภายุโรป และคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ได้ข้อสรุปให้ขยายขอบเขตการบังคับใช้ CBAM จากเดิม 5 กลุ่มสินค้า ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย และไฟฟ้า ให้เพิ่มเป็น 7 กลุ่มสินค้า

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

 

โดยรวมไฮโดรเจนและสินค้าปลายน้ำบางรายการ อาทิ น็อตและสกรูที่ทำจากเหล็กและเหล็กกล้า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (indirect emissions) อาทิ ก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตสินค้า ซึ่งได้ข้อสรุปในรายละเอียดสำคัญของมาตรการดังกล่าวแล้ว และจะเริ่มบังคับใช้มาตรการ CBAM ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566

นอกจากนี้ ที่ประชุมให้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2568 (3 ปีแรก) เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งผู้นำเข้าสินค้า 7 กลุ่ม มีหน้าที่รายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้าที่ผลิต และเริ่มบังคับใช้มาตรการอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ซึ่งผู้นำเข้าจะต้องซื้อใบรับรอง CBAM ตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้านั้น โดยขั้นตอนต่อไป รัฐสภายุโรปและคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ต้องเห็นชอบร่างกฎหมาย CBAM เป็นทางการ และคณะกรรมาธิการยุโรปต้องจัดทำกฎหมายลำดับรอง เพื่อกำหนดรายละเอียดในทางปฏิบัติก่อนที่มาตรการ CBAM จะมีผลใช้บังคับในเดือนตุลาคม 2566

 

อียู เคาะมาตรการปรับคาร์บอนฯ บังคับใช้1ต.ค.66

 

การพัฒนาการของกฎหมาย CBAM ที่เกิดขึ้น กรมขอให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะการคำนวณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องนำมารายงานอียูภายใต้มาตรการฯ และควรพิจารณาทางเลือกใหม่ในกระบวนการผลิต เพื่อให้ปล่อยคาร์บอนต่ำ นำพลังงานสะอาด และหมุนเวียนมาใช้ เพื่อลดภาระในการซื้อใบรับรอง CBAM ในอนาคต

นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย อาทิ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กระทรวงพาณิชย์ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย อยู่ระหว่างการทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการไทยต่อไป

 

อียู เคาะมาตรการปรับคาร์บอนฯ บังคับใช้1ต.ค.66

 

ทั้งนี้ ในปี 2564 สถิติการส่งออกสินค้าของไทยไปอียู ตามพิกัดสินค้าที่ระบุในร่างกฎหมาย CBAM ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า มูลค่า 125.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 3.76% ของการส่งออกไปโลก อะลูมิเนียม มูลค่า 61.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 3.75% ของการส่งออกไปโลก และน๊อตและสกรู มูลค่า 95.89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 19.96% ของการส่งออกไปโลก