กฟผ.ผนึกเนสท์เล่-อินโนพาวเวอร์ใช้ไฟฟ้าสีเขียวในอุตสาหกรรมอาหาร

08 ก.พ. 2566 | 05:58 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2566 | 05:58 น.

กฟผ.ผนึกเนสท์เล่-อินโนพาวเวอร์ใช้ไฟฟ้าสีเขียวในอุตสาหกรรมอาหาร มุ่งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเชิงรุก รุกผลิตเนสท์เล่ไอศกรีมด้วยไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100%

นายวฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้ดำเนินการร่วมกับเนสท์เล่ ประเทศไทย และบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เพื่อจัดหาพลังงานไฟฟ้าในระดับ Utility และมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์  

ทั้งนี้ จะนำร่องผลิตเนสท์เล่ไอศกรีมด้วยไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ในอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงทดสอบรูปแบบการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสีเขียว และผลักดันกลไกนโยบายด้านพลังงานสีเขียวตามมาตรฐานสากล

"การดำเนินการร่วมกันดังกล่าวเป็นการขับเคลื่อนการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในการผลิตของภาคอุตสาหกรรมอาหารซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมหลักที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้บริโภค รวมถึงยังเป็นการทดสอบกลไกการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบการจัดหาพลังงานไฟฟ้าสีเขียวภายใต้ Utility Green Tariff  ในโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการด้านพลังงาน ระยะที่ 2 (ERC Sandbox ระยะที่ 2) เป็นระยะเวลา 1 ปี"

นายวฤต กล่าวอีกว่า กฟผ. มีความพร้อมในการเป็นหน่วยงานกลางบริหารจัดการไฟฟ้าสีเขียว (Arrangement Unit) จับคู่การผลิตไฟฟ้าสีเขียวแบบเจาะจงแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าสีเขียว (Green Energy Portfolio) จากเขื่อนที่ขึ้นทะเบียน I-REC ของ กฟผ. ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนนเรศวร เขื่อนแม่กลอง เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ตามปริมาณการใช้ไฟฟ้าจริงรายวันของโรงงานบางชัน เนสท์เล่ ประเทศไทย 

กฟผ.ผนึกเนสท์เล่-อินโนพาวเวอร์ใช้ไฟฟ้าสีเขียวในอุตสาหกรรมอาหาร และตรวจสอบใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน (REC) ที่ตรงตามแหล่งผลิตและปริมาณการใช้ไฟฟ้าดังกล่าว เพื่อทดสอบรูปแบบการจัดหาพลังงานไฟฟ้าสีเขียวรูปแบบใหม่ที่จะส่งเสริมและยกระดับภาคพลังงานไฟฟ้าสีเขียวของไทยสู่มาตรฐานสากลตามนโยบายภาครัฐ 

รวมถึงความพร้อมในการตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานไฟฟ้าสีเขียวของทุกภาคธุรกิจเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าจากมาตรการภาษีคาร์บอนข้ามแดน เช่น CBAM และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำและมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศและภาคอุตสาหกรรมในประเทศต่อไป

นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า เนสท์เล่มีเป้าหมายสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero ภายในปี 2050 ซึ่งหนึ่งในโครงการภายใต้แผนงานด้านความยั่งยืนในประเทศไทยเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว ก็คือ การใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ในโรงงานผลิตของเนสท์เล่ทุกแห่งภายในปี 2025 
 

"การใช้ไฟฟ้าสีเขียวจากพลังงานหมุนเวียน 100% มานำร่องใช้ที่โรงงาน เนสท์เล่ ไอศกรีม เป็นรายแรกในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ในประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีก (Utility Green Tariff) ในฐานะบริษัทธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก"

 นายอธิป ตันติวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาด REC ของประเทศไทยจะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากผู้ใช้ไฟฟ้าเริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตที่มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเกิดการซื้อขาย REC เพิ่มขึ้น ยังส่งผลสู่การยกระดับการเข้าถึงพลังงานสีเขียวจากระดับรายปีเป็นระดับรายวันหรือรายชั่วโมง