นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการดำเนินการร่วมมือว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า เพื่อเป็นยกระดับขีดความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายแก้ปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ร่วมกันตรวจสอบโรงงานต้องสงสัยที่มีแนวโน้มเสี่ยงลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม การกระทำอื่น
รวมถึงเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษและชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อส่วนรวม โดยปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานรวม 73,382 โรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานที่ดี แต่ยังมีโรงงานส่วนน้อยที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม จนส่งผลกระทบต่อประชาชน สิ่งแวดล้อม และภาพลักษณ์ของภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบ
พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สตช. โดยสถานีตำรวจทั่วประเทศ 1,483 แห่ง พร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม จะดำเนินการตรวจสอบพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ทั่วไปที่มีเบาะแสหรือเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม สืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินคดี เพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับการลงโทษตามกฎหมาย
นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรมโรงงานฯ ใช้ระบบไอทีกำกับดูแลการกำจัดกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ มีจำนวน 23 ล้านตัน จำนวนนี้เป็นกากอันตราย 1.5 ล้านตัน พบมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมอยู่เป็นระยะ ทั้งในพื้นที่เอกชน บ่อดินเก่า และที่รกร้างว่างเปล่า
โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 78 ครั้ง กระทบชุมชน สิ่งแวดล้อม เฉพาะปี 2565 มากถึง 12 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯพยายามเข้าดำเนินการตามกฎหมายแต่กลับเจอกลุ่มอิทธิพล ข่มขู่เจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการจัดการ
ขณะเดียวกัน กรอ. จะเร่งปรับปรุงกฎหมายให้เข้มข้น โดยจะออกประกาศกระทรวงขยายการเอาผิดการลักลอบทิ้งกากไปยังโรงงานต้นกำเนิด ไม่เฉพาะโรงงานที่รับกำจัด และจะเดินหน้าปรับปรุงพ.ร.บ.โรงงาน ใน 2 ส่วนหลัก คือ
การเสนอจัดตั้งกองทุนอุตสาหกรรมดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมรอบพื้นที่โรงงาน เพื่อใช้เยียวยายามโรงงานกระทำผิด โดยแหล่งเงินจะมาจากงบประมาณรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอของบประมาณ 2567 วงเงิน 60 ล้านบาท เป็นขอครั้งเดียว จากนั้นจะใช้เงินจากค่าธรรมเนียมโรงงาน และเงินเปรียบเทียบค่าปรับจากโรงงานที่ทำผิด
นอกจากนี้จะเพิ่มโทษโรงงานต้นกำเนิดกาก ให้เข้มข้นเท่ากับพ.ร.บ.วัตถุอันตราย จากโทษปรับ 2 แสน คดีอายุความ 1 ปี เป็นเพิ่มโทษจำคุก 1 ปี คดีอายุความ 10 ปี เท่ากับโทษตามพร.บ.วัตถุอันตราย เพื่อให้การจัดการปัญหากากอุตสาหกรรมเข้มข้นครอบคลุมทั้งระบบ