"กฟผ." หนุนแก้ปัญหาโลกรวนมุ่งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน

05 มิ.ย. 2566 | 05:49 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มิ.ย. 2566 | 05:49 น.

"กฟผ." หนุนแก้ปัญหาโลกรวนมุ่งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน แนะคนไทยร่วมปรับวิธีคิด ปรับพฤติกรรม ผนึกกำลังอนุรักษ์พลังงานพร้อมดูแลสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอนโดยเริ่มจากตนเอง

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้ดำเนินการจัดกิจกรรม “ชีวิตติด Neutral” สร้างความรู้ความเข้าใจ และการตระหนักรู้ให้กับคนไทยในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ร่วมขับเคลื่อนให้ประเทศบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Carbon Neutrality ในปี 2050

ทั้งนี้ กฟผ.ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการรักษาความมั่นคงทางพลังงานมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาโลกรวน เพื่อปรับวิธีคิด และพฤติกรรม เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี 

นอกจากนี้ กฟผ. ได้ตั้งเป้าหมายนำพาองค์กรและประเทศบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยได้ขับเคลื่อนองค์กรผ่านกลยุทธ์ Triple S ประกอบด้วย  

  • Sources Transformation การเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน การปรับระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้ยืดหยุ่นและทันสมัยรองรับพลังงานหมุนเวียน ศึกษาเชื้อเพลิงและเทคโนโลยีที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อนำมาใช้ในอนาคต 
  • Sink Co-Creation เพิ่มแหล่งดูดซับคาร์บอน ผ่านโครงการปลูกป่าล้านไร่ ในเวลา 10 ปี โดยร่วมมือกับภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีกักเก็บคาร์บอน 
  • Support Measures Mechanism ดำเนินโครงการสนับสนุนให้สังคม มีส่วนร่วมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น โครงการฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 การสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ 

กฟผ. หนุนแก้ปัญหาโลกรวนมุ่งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน

รวมถึงให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทย สร้างต้นแบบหอฟอกอากาศสำหรับชุมชนด้วยเทคนิคพลาสมาเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 พร้อมพัฒนาแอปพลิเคชัน Sensor for All 

ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลจากเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณฝุ่นละอองที่ติดตั้งบริเวณโรงไฟฟ้า โรงงานขนาดใหญ่ สี่แยกไฟแดงที่มีการจราจรหนาแน่น สถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดกว่า 1,200 จุด ทั่วประเทศ เพื่อเฝ้าระวังให้ประชาชนสามารถวางแผนการใช้ชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในช่วงที่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศได้

นายจิรวัฒน์ ระติสุนทร รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายบรรลุ Nationally Determined Contributions (NDC) ในปี 2030 เป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2065 โดยขับเคลื่อนผ่านแนวทาง 4 ด้าน คือ ด้านนโยบายและกฎหมาย ด้านการเงินและการลงทุน ด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม และด้านการมีส่วนร่วม โดยพัฒนากลไกลตลาดคาร์บอนเครดิตเพื่อเป็นตัวเร่งในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น

นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) กล่าวว่า แนวคิดพื้นฐานในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกสู่บรรลุเป้าหมาย คือ 

  • ตรวจวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 
  • ลดการปล่อยและผลิตคาร์บอนเครดิต โดยพัฒนาเป็นโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ซึ่งจะได้ผลผลิตออกมาเป็นคาร์บอนเครดิต 
  • นำคาร์บอนเครดิตไปขายในตลาดคาร์บอน พร้อมเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนภาคส่วนต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality

นายธวัชชัย สำราญวานิช ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า กฟผ. กล่าวว่า ทุกคนสามารถมีส่วนช่วยในการบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality ได้ โดยการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันง่าย ๆ ผ่าน กลยุทธ์ 4 ป. คือ 

  • ปิดไฟ  
  • ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 26 องศา 
  • ปลดปลั๊กไฟฟ้าเมื่อเลิกใช้งาน 
  • เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5