"WAVE BCG" จับมือ "เอวา ฟาร์ม 888" ปลูกป่าสร้างคาร์บอนเครดิต

13 มิ.ย. 2566 | 03:14 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มิ.ย. 2566 | 03:15 น.

"WAVE BCG" ร่วมมือกับ "เอวา ฟาร์ม 888" เซ็นเอ็มโอยู จัดทำโครงการปลูกต้นไม้สร้าง "คาร์บอนเครดิต" ในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้ต้นซิลเวอร์โอ๊คช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์

นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานกรรมการ บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด หรือ WAVE BCG พร้อมด้วย นายสมิทร เหลี่ยมมณี ผู้อำนวยการโครงการปลูกต้นไม้เพื่อคาร์บอนเครดิต เปิดเผยว่า ทาง WAVE BCG ได้มีการลงนามความร่วมมือ (MOU) กับห้างหุ้นส่วนจำกัด เอวาฟาร์ม 888  หรือ Ava Farm 888 ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายพันธุ์ต้นไม้ซิลเวอร์โอ๊ค โกลเด้นโอ๊ค เพื่อดำเนินโครงการการปลูกต้นไม้ เพื่อคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หลังทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือในการวิจัย โดยพบว่าต้นซิลเวอร์โอ๊ค ที่ปลูกในประเทศไทยสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าต้นสักทั่วไปในไทย 5-7 เท่า

ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ WAVE BCG ตั้งเป้าให้เป็นต้นไม้ เพื่อเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรพืชสวน และพืชไร่ รวมทั้งยังช่วยสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต

ภาพประกอบ WAVE BCG ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับห้างหุ้นส่วนจำกัด เอวาฟาร์ม 888

ทั้งนี้ WAVE BCG ได้เดินหน้าโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อนโยบายประเทศไทยที่ตั้งเป้า "คาร์บอนเป็นศูนย์" ในปี 2050 และก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ปี 2065

โดยโครงการปลูกต้นซิลเวอร์โอ๊ค ถือเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ ซึ่งสามารถช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศโดยวิธีการธรรมชาติ (Nature-Based Solutions)

นอกจากการเดินหน้าโครงการในประเทศไทยแล้วทาง WAVE BCG ยังได้ขยายโครงการสู่ประเทศต่างๆ ในอาเซียน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อการมุ่งสู่โครงการลดโลกร้อน

จึงเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อที่จะจัดหา และพร้อมให้คำปรึกษาในดำเนินโครงการปลูกซิลเวอร์โอ๊คทั้งใน และต่างประเทศ