นางกัณฑมาศ กฤตยานุกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการผลิตและจัดส่งน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากได้ดำเนินการร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) และบริษัท C-Quester จากสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
โดยกลุ่มบริษัทบางจาก ตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593 ซึ่งได้กำหนดแผนงาน BCP 316 NET ที่ชัดเจนเพื่อผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในระยะยาว ผ่านการผนวกเทคโนโลยีที่ส่งเสริมความยั่งยืน การเพิ่มสัดส่วนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินงาน รวมถึงให้ความสำคัญต่อการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งด้วยเทคโนโลยีและโดยธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนของกลุ่มบริษัทบางจาก ในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจคาร์บอนต่ำ
"การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบนิเวศใหม่ด้านพลังงาน ยังคงจำเป็นต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลอยู่ ดังนั้น เทคโนโลยีการดักจับคาร์บอนจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ให้แพร่สู่ชั้นบรรยากาศและสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ"
นอกจากนี้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดักจับได้ จะยังสามารถนำไปแปรสภาพและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ด้วย เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ จึงนับเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการลดการปล่อยคาร์บอน และนำไปสู่การเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำเทคโนโลยีการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จาก บริษัท C-Quester จำกัด
ซึ่งดำเนินธุรกิจในการพัฒนาเทคโนโลยีการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยใช้พลังงานต่ำและได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาเทคโนโลยีจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (CalTech) ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีส่วนสำคัญในการบริหารจัดการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ซึ่งนับเป็นต้นน้ำของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อที่จะสามารถจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยการกักเก็บอย่างเหมาะสมหรือนำไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ต่อไป