บีไอจี-อาปิโก ไฮเทคลุยพัฒนาสายการผลิตลดคาร์บอนมุ่ง "Net Zero"

27 ก.ค. 2566 | 08:06 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ค. 2566 | 08:07 น.

บีไอจี-อาปิโก ไฮเทคลุยพัฒนาสายการผลิตลดคาร์บอนมุ่ง "Net Zero" นำเทคโนโลยีการทำดิจิตัลแพลตฟอร์ม เพื่อการสังเกต และวางแผนการผลิตเพื่อช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาปรับใช้

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ BIG หรือบีไอจี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมมือกับบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์  

ทั้งนี้ เพื่อนำเทคโนโลยี ในรูปแบบการทำดิจิตัล แพลตฟอร์ม  (Digital Platform )เพื่อการสังเกต และวางแผนการผลิตเพื่อช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใน ที่บีไอจีพัฒนาขึ้น หรือเรียกว่า Carbon Account Platform

อย่างไรก็ดี ความร่วมมือดังกล่าวจะมุ่งร่วมกันประยุกต์นวัตกรรมด้านพลังงานเพื่อลดการปลดปล่อยมลพิษในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ นำไปสู่การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต 

โดยสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutralilty) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065

บีไอจี-อาปิโก ไฮเทครุกพัฒนาสายการผลิตลดคาร์บอนมุ่ง Net Zero

"บีไอจี เดินหน้าผลักดันนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Climate Technology ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศไทย การนำเอา Carbon Accounting Platform ในรูปแบบ Digital Platform ที่บีไอจีพัฒนาขึ้นมาใช้กับลูกค้าซึ่งจะช่วยให้การวางแผนกระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพและยังสามารถตรวจสอบการปล่อยคาร์บอนฯ จากการผลิตเพื่อนำไปวางแผนการลดการปลดปล่อยในอนาคต เป็นการใช้นวัตกรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนสำหรับภาคอุตสาหกรรม”

นางสาวเย็บ ซิน หรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อาปิโก ไฮเทค มุ่งมั่นเรื่องความมีประสิทธิภาพ คล่องตัว รักษ์สิ่งแวดล้อม และมุ่งเน้นเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งการร่วมมือดังกล่าวนับเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมในการใช้ Digital Platform มาสร้างมาตรฐานใหม่ในกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้สามารถตรวจสอบการใช้พลังงานแบบ Real-time

และบริหารจัดการการใช้ก๊าซอุตสาหกรรมให้ทันต่อแผนการผลิตในอนาคตของอาปิโกฯ อีกทั้งยังมี Carbon Accounting Platform ที่จะช่วยให้สามารถตรวจสอบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตและวางแผนลดในอนาคตเพื่อเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ร่วมกัน ซึ่งจะต่อยอดในเรื่องของการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน