"แสนสิริ" ดัน เป้าหมาย ติดตั้งSolar Roof บ้านทุกหลังในปี2025   

05 ก.ย. 2566 | 10:56 น.
อัพเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2566 | 16:40 น.

"แสนสิริ" ดัน เป้าหมาย ติดตั้งSolar Roof บ้านทุกหลังในปี2025   กลยุทธ์ 3เรื่อง เรื่องแรกคือการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำผลิต คาร์บอน จากการปรับตัวเองเพื่อให้ปริมาณคาร์บอนออกสู่บรรยากาศน้อยลง วัสดุก่อสร้าง รวมถึงการส่งมอบลูกค้า

 

การเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น จากภาวะโลกร้อนจนกลายเป็นภาวะโลกรวนที่หลายภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนต่างผลักดัน การมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มีเป้าหมาย เป็นศูนย์ในปี2050    

  “ฐานเศรษฐกิจ”จัดงานสัมมนา Road To NET ZERO โอกาส & ความท้าทายทางธุรกิจวันอังคารที่ 5 กันยายน 2566 สยามพารากอน

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) สะท้อนภายใต้หัวข้อ  “Net Zero-Carbon Credit ความท้าทายกับโอกาสทางธุรกิจ” แสนสิริไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมที่ปล่อยคาร์บอนโดยตรง เมื่อปีที่ผ่านมาเริ่มมีการดำเนินการเรื่อง NET ZERO ได้สำรวจตัวเองว่าแสนสิริเองมีคาร์บอนออกสูงชั้นบรรยากาศโลก มากน้อยแค่ไหน

ทั้งนี้จากข้อมูลปีที่ผ่านมาแสนสิริเรามี  ขอบเขต (สโคป) หนึ่งสโคปสอง ที่ทราบ ว่า ได้ผลิตคาร์บอน 6,800ตันต่อปี แต่สโคป3  จะนับลูกบ้านที่ขายเพราะใช้พลังงานภายในบ้านปริมาณที่เขาคำนวนย้อนกลับมาอนาคตที่ต้องรับผิดชอบ2.8ล้านตันต่อปี เท่ากับ สโคปสองแค่0.25%  นี่คือการคำนวณ การปล่อยคาร์บอนเครดิตในชั้นบรรยากาศ

อุทัย อุทัยแสงสุข

  แสนสิริมี เส้นทางระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวเพื่อให้ก้าวเดิน เป็น NET ZERO    โดย ปีนี้ สามารถลดก๊าชเรือนกระจกได้ 7% คือลดใช้พลังงานในออฟฟิศ เรื่องของการใช้น้ำมันเพราะเป็นบริษัทเองมีเรื่องการเดินทางพนักงาน  โดยเป้าหมายในปี2025 ต้องการลดก๊าชเรือนกระจกให้ได้20%  ปี2033 จพลดคาร์บอนให้ได้ 50%  และปี2050 คาร์บอนเป็นศูนย์ อย่างน้อยเราก็ก้าวเดินทีละก้าว

สำหรับกลยุทธ์ของแสนสิริ แบ่งออกเป็น3เรื่อง เรื่องแรกคือการเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำผลิต คาร์บอน จากการปรับตัวเองเพื่อให้ปริมาณคาร์บอนออกสู่บรรยากาศน้อยลงเรื่องที่สอง วัสดุก่อสร้าง  รวมถึงการส่งมอบลูกค้า ซี่งเป็นเรื่องใหญ่

ขณะ เรื่องที่3เรื่องการลงทุนเป็นส่วนหนึ่งที่แสนสิริทำมา เรื่องแรก แสนสิริ แบบในเรื่องของการที่เราใช้อสังหาฯในแง่ของการใช้พลังงานในบ้าน ต้องบอกว่าสร้างที่อยู่อาศัยมากที่สุด ที่จะมีคาร์บอน 2.8ล้านตันต่อปี ที่จะก่อให้เกิดคาร์บอนสิ่งที่ดำเนินการมาแล้ว 10กว่าปี แสนสิริเป็นบริษัทแรกที่ติดตั้งอีวีชาร์จเจอร์ ลงในคอนโดมิเนียมมาตั้งแต่ 10ปีที่ผ่านมา ปัจุบันติดตั้งอีวีชาร์จ 463จุด ในโครงการบ้านจัดสรร  และจะจายเข้าไปในบ้านพักอาศัย

เพราะรถยนต์ไฟฟ้าได้รับการตอบรับค่อนข้างสูงเติบโตมาเกือบ100%เราพยายามเปลี่ยนอินฟราสตรัคเจอร์ เข้าไปในที่อยู่อาศัยที่ขายให้กับลูกค้าและตั้ง เป้าในปี2025 ติดอีวีชาร์ตเจอร์ เข้าไปในโครงการบ้านจัดสรร ทุกหลังเป็นต้น

 

     “ ส่วนSolar Roof  เชื่อว่าในอนาคตน่าจะเป็นพลังงานสะอาดปัจจุบันต้นทุนที่ทำSolar Roof ถึงจุดคุ้มทุนภายใน6-7ปีเท่านั้น ถ้าเราสามารถใช้ไฟฟ้าได้ปัจจุบันเราติดตั้งให้กับบ้านเดี่ยวไป1,300หลัง จากที่ดำเนินการมาประมาณ2ปีกว่า ต้องบอกว่าแสนสิริติดตั้งอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์มากที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ บริษัทมีความตั้งใจติดตั้งSolar Roof สำหรับบ้านทุกหลังภายในปี2025”

นอกจากนี้จุด พื้นที่ส่วนกลางคลับเฮ้าส์เริ่มมีการใช้พลังงาน ได้ติดSolar Roof ไว้ในคลับเฮ้าส์ทุกแห่ง ของโครงการแสนสิริซึ่งได้เริ่มมา2ปีกว่าเช่นกัน  

“เราติดตั้งมา30กว่าโครงการและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆซึ่งเป็นการใช้พลังงานสะอาดเพราะถือว่าที่อยู่อาศัยเรามีการปล่อยคาร์บอนในบรรยากาศนอกจากนี้เรายังมอง ไปยังอุตสหากรรมก่อสร้างมีการรณรงค์ให้ซัพพลายเออร์ ผู้รับเหมาให้มีการใช้ วัสดุธรรมชาติ ผู้บริหารแสนสิริวันนี้ ทยอยเปลี่ยน ใช้รถอีวีซึ่งเป็นส่วนกลางเชื่อว่าภายในปี2025รถทั้งหมดจะใช้ อีวีทั้งหมด”

นอกเหนือจากนี้เรื่องเกี่ยวกับที่ก่อมลภาวะให้กับโลก อย่างมาก คืออุตสหากรรมก่อสร้างหรือแม้แต่เรารณรงค์กับลูกบ้านของแสนสิริในเรื่องการคัดแยกขยะ ในอุตสหกรรมของ บริษัทมีพนักงานคนงานไม่มีการปลูกฝังในการคัดแยกขยะขยะพวกนั้นจะเกิดขึ้นกับโลกอีกมากมายปัจจุบันได้มีการปลูกฝังของพนักงานลงไปถึงไซต์งานก่อสร้างไปถึงโครงการที่ก่อสร้างและส่งมอบลูกค้าไปแล้ว ซึ่ง ได้แจ้ง ถึงลูกบ้านในการแยกขยะเอาขยะมารีไซเคิลในการก่อสร้าง และนำกลับมาใช้ใหม่ซึ่งอยู่ในนโยบายขององค์กร

นอกเหนือจากนี้ ยังดูแลลูกบ้าน ประมาณ แสนกว่าครอบครัว และรณรงค์เกี่ยวกับการแยกขยะถ้าสามารถแยกขยะได้และ นำกลับมาใช้ใหม่เชื่อว่าปริมาณขยะจะหายไป70%นี่คือส่วนหนึ่งที่ แสนสิริ รณรงค์ กว่า10ปี รวมถึงมีนโยบายปลูกต้นไม้ ต้นไม้ใหญ่จะไม่ทำลาย โดยให้ต้นไม้เหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่ละปีแสนสิริปลูกต้นไม้ประมาณ8หมื่นถึงแสนต้นในโครงการบ้านจัดสรรเพราะต้นไม้ข้อดี ดูซับอากาศเสีย ลดความร้อนและช่วยลดฝุ่น ได้อันนี้เป็นนโยบายขององค์กรเราอยากให้หมู่บ้านมีความ ร่มรื่น จากต้นไม้ ที่ปลูก8หมื่นต้นถึงแสนต้นต่อปีสามารถดูดซับคาร์บอนได้35ตันต่อปี ซึ่งเกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาล ห่วงโซ่รวมถึงการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง  การจัดซื้อ การออกแบบ การก่อสร้างที่เน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม    

นอกจากนี้ เรื่องแบตเตอร์รี เชื่อว่าในอีก3ปี หวังว่าบ้านของแสนสิริจะมีหลังคาโซลาร์เซลล์และมีแบตเตอร์รีผลิตไฟฟ้าจากหลังคาโซลาเซลล์แล้วเก็บใส่แบตเตอรี่คนที่อยู่บ้านเปิดแอร์สามารถเอาแบตเตอร์รีมาใช้เป็นพลังงาน กลางคืนและใช้ในอีวีชราร์จเจอร์ได้ ดังชั้นการไชเคิลจะเกิดในโครงการของแสนสิริหวังว่าวันหนึ่งต้นทุนและการลงทุนจะถึงจุดคุ้มทุนสามารถนำมา พัฒนาต่อยอดในโครงการต่างๆของแสนสิริต่อไป