อัพเดทบริษัทจีนลงทุน "EV" ในไทยล่าสุด เช็คมูลค่า-กำหนดเริ่มผลิต

14 ต.ค. 2566 | 02:34 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ต.ค. 2566 | 02:53 น.

อัพเดทบริษัทจีนลงทุน "EV" ในไทยล่าสุด เช็คมูลค่า-กำหนดเริ่มผลิต หลังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ประเทศให้ความสำคัญ ฐานเศรษฐกิจรวบรวมไว้ให้แล้ว ด้านบีโอไอออกโรงยืนยันไม่ทอดทิ้งรถยนต์สันดาปภายในแน่นอน

ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน โดยมีนโยบาย 30@30 ซึ่งหมายถึงการผลิตรถ EV ให้ได้ 30% ภายในปี 2030 

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าของการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว 

โดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทจากประเทศจีน ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าตลากของ EV พบว่า

BYD

  • มีการลงทุนประกอบแบตเตอรรี่ EV ได้รับการอนุมัติส่งเสริมการลงทุน ม.ค. 2566 มูลค่าการลงทุน 3,893 ล้านบาท
  • ผลิตรถยนต์นั่ง EV พวงมาลัยขวาอนุมัติส่งเสริมการลงทุน ปีละ 1.5 แสนคัน เริ่มผลิตปี 2567

MG

  • มีแผนผลิต EV ในไทยปี 67
  • ลงทุน 500 ล้านบาท ประกอบแบตเตอรรี่

NETA

  • ลงนามกับโรงงานประกอบรถยนต์บางชันฯ มีแผนผลิตรถยนต์ EV ในไทยปี 67

ฉางอัน ออโตโมบิล

  • อนุมัติส่งเสริมการลงทุน ต.ค.2566 มูลค่าการลงทุน 8,862 ล้านบาท
  • ผลิต BEV ปีละ 58,000 คัน
  • ผลิต PHEV ปีละ 36,000 คัน

GAC Aion

  • เริ่มส่งรถมาทดลองตลาดในไทยรุ่น AION Y Plus

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยถึงการดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนรถยนต์สันดาปภายในและยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ว่า จะดำเนินการควบคู่กันไปตามแนวทางที่เหมาะสมมากที่สุด

ทั้งนี้ เป้าหมายทางด้าน EV ของไทยยังคงเป็นไปตามนโยบาย 30@30 ซึ่งหมายถึงว่านอกเหนือจาก 30% ที่เป็น EV แล้ว อีก 70% ที่เหลือก็คือรถดั้งเดิม ทั้งรถยนต์สันดาปภายใน (ICE) ,ไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริดนั้น จะต้องหาแนวทางที่นำไปสู่การพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีที่ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่อไป

"ยืนยันว่าอีก 70% ของอุตสาหกรรมยานยนต์จะไม่ถูกท้องทิ้งอย่างแน่นอน"