ส่องโอกาส โทเคนดิจิทัล มีRECs เป็นสินทรัพย์อ้างอิง หนุนพลังงานสีเขียว

19 ต.ค. 2566 | 08:26 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ต.ค. 2566 | 09:15 น.

ส่องโอกาส โทเคนดิจิทัลที่มี RECs หรือ ใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียนเป็นสินทรัพย์อ้างอิง เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน

เมื่อ Net Zero เป็นหนึ่งในทางรอดของมนุษยชาติ เเละการดำรงชีวิตอยู่บนโลก โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตมากไปกว่านี้ จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องสนใจและให้ความสำคัญ นอกจากนี้ยังมีกลไกด้านการลดก๊าซเรือนกระจกจากต่างประเทศ เช่น "สหภาพยุโรป" บังคับใช้กลไกการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยประมาณ 14,700 ล้านบาท "สหรัฐอเมริกา" อยู่ระหว่างการเสนอ Clean Competition Act หรือ CCA 

ขณะที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง "สิงคโปร์" มีการบังคับใช้ภาษีคาร์บอน มีอัตราภาษีเริ่มต้น 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อตันคาร์บอน gg]tจะเพิ่มขึ้นเป็น 25 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อตันคาร์บอน ในปี 2567 – 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 45 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อตันคาร์บอน ในปี 2569 – 2570

อีกทั้งมีแรงกดดันจากบริษัทต่างชาติที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่อุปทาน และกองทุนที่ระดมเงินทุนจากผู้ลงทุน (Private Equity Fund) จะไม่สามารถลงทุนในบริษัทที่มีคะแนน ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) ต่ำ

 

แรงกดดันดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันและเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ความได้เปรียบภายใต้ข้อกำหนดด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกดังกล่าว และความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก รวมถึงป้องกันการกีดกันทางการค้าภายใต้กลไกรักษ์โลก

ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบางเสี่ยงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นอันดับ 9 ตามการรายงานของ German Watch รวมถึงการประเมินของ Climate Action Tracker หากไทยยังดำเนินมาตรการแบบปัจจุบัน (Critically Insufficient) จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทยใน ปี 2562 ปล่อยกว่า 372 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เป็นอันดับ 20 ของโลก มาจากภาคพลังงานมีสัดส่วนการปล่อยมากถึง 70% ของมวลรวมทั้งหมดของประเทศ ในขณะที่สัดส่วนการผลิตพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศมีเพียง 13% ของพลังงานไฟฟ้ามวลรวมทั้งหมด

แม้จะพัฒนาโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการซื้อขายคาร์บอนเครดิต แต่ยังไม่เพียงพอและมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศ Green Taxonomy หรือ มาตรฐานกลางอ้างอิงจำแนกและจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของไทย เพื่อให้สถาบันทางการเงินใช้ประเมินสถานะของตนเองและลูกค้า ในการออกผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่สอดคล้องกับ NDC ของประเทศไทย

นอกจากนี้เริ่มปรับใช้แนวทางภาคบังคับมากขึ้นแทนที่ภาคสมัครใจ ผ่านการร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจะกำหนดเกณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือใช้พลังงานสูง หากมีมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่การได้รับบทลงโทษ อีกทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กำหนดให้บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฯ ต้องเปิดเผยข้อมูลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ Carbon Footprint ในรายงานฉบับเดียว เพื่อยกระดับการเปิดเผยข้อมูล ESG และขณะนี้กำลังพัฒนาฐานข้อมูลเพื่อเปิดเผย Carbon Footprint ขององค์กรในประเทศไทย 

นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WAVE BCG จำกัด

นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WAVE BCG จำกัด ระบุว่า ความจำเป็นเร่งด่วนในการลดก๊าซเรือนกระจกของไทยภายใต้ความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในการบรรลุเป้าหมายควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5-2 องศาฯ เมื่อเทียบกับระดับก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม จากการประชุม Climate Ambition Summit 2023 ที่ผ่านมา ไทยได้ให้คำมั่น ตั้งเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 เเละเพิ่มเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contributions: NDC) ที่เพิ่มขึ้นจาก 20% เป็น 40% ภายในปี 2573

อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยไทยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคือ "ใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC)" เป็นเครื่องมือที่จะสนับสนุนการเพิ่มขึ้นและการขยายของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ใช้อ้างสิทธิ์ใน Emission Scope 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงานไฟฟ้าขององค์กร โดยมาตรฐานการขึ้นทะเบียน RECs ภายในประเทศไทย เป็นมาตรฐาน International Renewable Energy Certificate: I-REC ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากล กว่า 48 ประเทศทั่วโลก  และเป็นที่นิยมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทยมีปริมาณการขึ้นทะเบียนมากถึง 16 ล้าน RECs ตั้งแต่ปี 2560-2566

เมื่อ RECsกลายเป็นสิ่งที่ต้องการมากขึ้นในองค์กรที่มีการเปิดเผยข้อมูล ESG

การซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะในสิงค์โปร์ ซึ่งบริษัทชั้นนำอย่าง Starhub Singtel และ Grab สนับสนุนการซื้อขายใบรับรองพลังงานหมุนเวียนโดยมีประเทศไทยและเวียดนามเป็นคู่ค้าหลัก "โทเคนดิจิทัล" จึงเครื่องมือทางการเงินในการลงทุนรูปแบบใหม่

โทเคนดิจิทัลที่มี RECs เป็นสินทรัพย์อ้างอิง

คาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ลงทุนรายใหญ่และภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีพันธกิจในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก วัตถุประสงค์ในการพัฒนาโทเคนดิจิทัลที่มี RECs เป็นสินทรัพย์อ้างอิง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในระดับโลก ให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศภายในปี 2593

นางสาวจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) บริษัทภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) กล่าวว่า "Token X" เล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของโทเคนดิจิทัล ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Asset Class ที่จะเข้ามามีบทบาทในโลกยุคใหม่ และมีความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศมากขึ้น จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นคำตอบของภาคธุรกิจและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการนำโทเคนดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนประสานเข้ากับธุรกิจ สินทรัพย์ และโครงการของผู้ประกอบการ เพื่อผลักดันในเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของทุกคนอย่างยั่งยืน

WAVE BCG และ Climate Offset Accelerator ร่วม Token X  ศึกษาความเป็นไปได้ในการออกโทเคนดิจิทัลที่มี RECs เป็นสินทรัพย์อ้างอิง

3 บริษัทร่วมกันผลักดันตลาด RECs ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

Token X ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต. และ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี Blockchain Solution มุ่งสร้างภาคธุรกิจให้ขับเคลื่อนความก้าวหน้า ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจไทยผ่านการระดมทุนที่มีประสิทธิภาพ 

WAVE BCG ผู้ให้บริการด้านClimate Solutions ครบวงจร มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดคาร์บอนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งการให้คำปรึกษาสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย การเป็นผู้พัฒนา การศึกษาและจัดหาคาร์บอนเครดิต รวมถึงการซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน 

Climate Offset Accelerator ผู้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการบริหารจัดการ RECs ในฐานะผู้ออกโทเคนดิจิทัลที่มี RECs เป็นสินทรัพย์อ้างอิง