หนึ่งในเทรนด์การท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน คือ การท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Responsible Tourism ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นี่เองการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้จัดทำโครงการ “THE ONE FOR NATURE” ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์ ซึ่งในปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 2
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.กล่าวว่า การกลับมาของโครงการ “THE ONE FOR NATURE” ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์ ครั้งที่ 2 นี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ททท.ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มคุณภาพให้เข้าเที่ยวไทยในรูปแบบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ภายใต้แนวคิด “Travel with Responsibility in Thailand และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ (Quality Leisure Destination) อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.66 ที่ผ่านมา ททท.ได้โปรโมทโครงการฯ ผ่านกิจกรรมออนไลน์ช่องทางเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/theonefornature และสื่อออนไลน์ทั่วโลก สามารถสร้างยอดการรับรู้ได้สูงถึง 10,369,360 คน-ครั้ง ในเวลา 1 เดือน พร้อมจัดกิจกรรม On Ground ประชาสัมพันธ์โครงการผ่านกิจกรรมการคัดแยกขยะ เพื่อให้นำขยะไปรีไซเคิล และนำกลับมาใช้ใหม่ ณ สถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้แก่ แหลมบาลีฮาย จังหวัดชลบุรี ถนนคนเดินวัวลายและถนนคนเดินประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ และถนนคนเดินหลาดใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี
สำหรับกิจกรรมไฮไลต์ในครั้งนี้ คือ กิจกรรมปลูกปะการังเทียม จากขยะรีไซเคิล โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สนับสนุนดูแลพื้นที่จัดตั้งบ้านปะการังเทียม และภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ซีแพค กรีน โซลูชั่น จำกัด ในธุรกิจซิเมนต์ เครือซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี สนับสนุนการผลิตบ้านปะการังเทียมที่มีการออกแบบเอกลักษณ์ความเป็นไทย รูปช้าง 6 เชือก จากนวัตกรรม 3D printing และซีเมนต์ที่ได้รับการรับรองว่าสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล ซึ่งสัตว์น้ำสามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์ตามระบบนิเวศทางธรรมชาติได้จริง
รวมถึงได้รับความร่วมมือจากโรงแรมเดอะราชา และกลุ่มนักประดาน้ำมืออาชีพอาสาสมัคร ในนาม Racha master diver อาสาดำเนินการติดตั้งบ้านปะการังดังกล่าว ลงสู่ใต้ทะเลอ่าวทือ เกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต เมื่อไม่นานมานี้
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการเชิงรุกของ ททท. ผ่านโครงการ “THE ONE FOR NATURE” ยิ่งเที่ยวยิ่งรักษ์นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการช่วยพลิกฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยอาศัยการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เข้ามาขับเคลื่อนเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีในการท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลายและแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์
ดังนั้นการปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สมบัติทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต และธรรมชาติ อย่างเหมาะสมในทุกภาคส่วนจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง หากเราเดินหน้าเชิงรุกอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นอย่างต่อเนื่องทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทานให้ตระหนักถึงรูปแบบการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ
รวมถึงดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ไม่ใช่แค่ในจังหวัดภูเก็ต แต่กระจายสู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ อันจะเป็นผลดีต่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจภาพรวม
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 43 ฉบับที่ 3,944 วันที่ 30 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม พ.ศ. 2566