สหรัฐฯ-จีน 2 ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ของโลก กุญแจสำคัญใน COP28

14 พ.ย. 2566 | 09:35 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ย. 2566 | 10:16 น.

สหรัฐฯ-จีน 2 ประเทศ ผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ของโลก จะเป็นกุญแจสำคัญในการประชุม COP28 ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 12 ธ.ค. นี้

รัฐบาลมากกว่า 200 ประเทศได้รับคำเชิญในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 28 หรือ COP28 เวทีที่ผู้นำและตัวแทนรัฐบาล พร้อมกลุ่มองค์กรการกุศลด้านสิ่งแวดล้อม สถาบันความคิด ภาคธุรกิจและศาสนา จะหารือกันเพื่อหาทางเตรียมความพร้อมและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในอนาคต การประชุมครั้งนี้จะจัดขึ้นในนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 12 ธ.ค. นี้

สหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย 3 ชาติมหาอำนาจ ยังอยู่ระหว่างการตอบรับว่าจะยืนยันเข้าร่วมการประชุมด้วยตนเองหรือไม่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร "ริชี ซูแน็ก" แห่งสหราชอาณาจักร คาดว่าจะไปร่วมการประชุม

ข้อมูลว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกได้ปรับเพิ่มสูงขึ้นมากตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา ปัจจุบัน จีน สหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก ในการนำไปสู่ การประชุมสุดยอด COP28 ครั้งนี้ สหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ถูกจับตาการมีส่วนร่วมในการเจรจาการทูตด้านสภาพภูมิอากาศ  

การประชุมเมื่อเร็วๆ นี้อาจเป็นทางสว่าง ที่เมืองซันนีแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย "จอห์น เคอร์รี" ทูตด้านสภาพภูมิอากาศของสหรัฐฯ เเละ "เซี่ย เจิ้นหวา" ทูตพิเศษของจีนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งสองประเทศปิดท้ายด้วยการมองโลกในแง่ดี แม้ว่าจะไม่มีการประกาศความก้าวหน้าต่อสาธารณะในทันทีก็ตาม สหรัฐฯ เน้นย้ำการค้นพบจุดยืนร่วมกันในประเด็นต่างๆ หลายประการในขณะที่จีนรายงานผลลัพธ์เชิงบวก เเม้เเต่สถานที่ที่พบกันของทั้งคู่ก็ยังถูกมองว่าเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์อันหรูหราแห่งนี้เป็นที่ที่สี จิ้นผิง ผู้นำจีน พบปะประธานาธิบดีครั้งแรกกับบารัค โอบามา ในปี 2556

ขณะที่ทั่วโลกจับตาการเคลื่อนไหวของ "สี จิ้นผิง" และ "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะพบกันที่การประชุมสุดยอดเอเปคในซานฟรานซิสโก โดยการประชุมสภาพอากาศครั้งนี้ จะเป็นการวางรากฐานสำหรับข้อตกลงด้านสภาพอากาศที่อาจเกิดขึ้น

ประวัติศาสตร์การเจรจาเรื่องสภาพภูมิอากาศมักจะเห็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญเมื่อสหรัฐฯ และจีนบรรลุเป้าหมายและกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศ ความสามารถทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่รวมกันจึงทำให้ทั้งสองประเทศมีบทบาทสำคัญในนโยบายสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศ

 

ที่สำคัญมีความสำคัญต่อโลกด้วย เพราะเศรษฐกิจที่ทรงอิทธิพลที่สุด และเป็นคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งความร่วมมือที่เป็นไปได้ระหว่างสหรัฐฯ และจีนในการประชุม COP28 ถือเป็นหัวใจสำคัญ เนื่องจากความมุ่งมั่นร่วมกันในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดและความพยายามระดับโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น การริเริ่มร่วมกันหรือข้อตกลงทวิภาคี อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งถือเป็นแบบอย่างสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

จุดยืน สหรัฐฯ-จีน พิชิต Net Zero 

จีนมุ่งมั่นที่จะลดการผลิตมีเทนที่การประชุม COP 26 ในเมืองกลาสโกว์ครั้งแรก โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงร่วมกับสหรัฐฯ แต่แผนลดค่าใช้จ่ายไม่บรรลุผลเป็นเวลาสองปี ประเด็นที่ถกเถียงกันมากขึ้นอีกประการหนึ่ง คือ การควบคุมการปล่อยเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยการเลิกใช้ถ่านหิน จีนเป็นผู้ผลิตก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเกือบ 90% มาจากภาคพลังงาน การผลิตไฟฟ้ามากกว่า 60% มาจากถ่านหิน การเลิกใช้ถ่านหินเป็นส่วนสำคัญของเป้าหมายการเป็นศูนย์สุทธิของจีนภายในปี 2060 รัฐบาลจึงมุ่งเน้นไปที่ความมั่นคงทางพลังงาน และการเลิกใช้ถ่านหินมีความอ่อนไหวมากขึ้น นักรณรงค์กล่าวว่าหัวข้อนี้กลายเป็นเรื่องยากที่จะพูดคุย

สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศมหาอำนาจอีกหนึ่งประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนใหญ่อันดับ 2 ของโลก แต่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากกว่าประเทศใดๆ นับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม เมื่อสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50 - 52% จากระดับปี 2005 ภายในปี 2030

ที่มาข้อมูล