นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เตรียมเปิด “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” (Central Westville) ต้นแบบศูนย์การค้ารักษ์โลกแห่งแรกของบริษัทฯ พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตด้วย มีแนวคิดหลักคือการนำ Nature มาผสมผสานกับ Urbanization เป็น The First-ever Nature Harmonized Retail
โดยบริบทด้าน Sustainability ของเซ็นทรัลพัฒนาครอบคลุมทั้งด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อเชื่อมต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เติบโตไปพร้อมกัน โดยยึดมั่นในบทบาทด้าน Place Making และการเป็นระบบที่แข็งแกร่งและยั่งยืน หรือ The Ecosystem for All เชื่อมโยงทุกธุรกิจ ทั้งภายในเครือกลุ่มเซ็นทรัลและพันธมิตรจากภาคส่วนต่างๆ ที่มุ่งมั่นสร้างโลกและอนาคตที่ดีขึ้น
เช่น การร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทใหญ่ในครั้งนี้อย่าง SCG, GC, MITSUI ไปจนถึงบริษัทรุ่นใหม่อย่าง Recycle Day ด้วยการแบ่งปันความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ระหว่างกัน ทำให้โครงการ Central Westville เดินหน้าสู่การเป็น Low Carbon Mall ตามแผนการเดินหน้าสู่ความยั่งยืน NET Zero 2050 ของเซ็นทรัลพัฒนา
“เซ็นทรัลพัฒนา” ยังมีแผนและเตรียมเผย Green Initiatives ใหม่ ๆ ได้แก่ ริเริ่ม Green Partnership ร่วมกับร้านค้าและพันธมิตร ตั้งเป้าไว้กว่า 150 ราย ในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่
นอกจากนี้ ร้านค้าแบรนด์ต่างๆยังได้ให้ความสนใจในกิจกรรมการคัดแยกขยะ-ลดการแจกพลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง-การประหยัดพลังงาน พร้อมสนับสนุนการสร้างคอมมูนิตี้ของกลุ่มลูกค้ารักษ์โลกอีกด้วย
“เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” โมเดลนำร่องศูนย์การค้าต้นแบบรักษ์โลก Low Carbon Mall แห่งแรกของไทย การปั้นศูนย์การค้ารักษ์โลกที่มีส่วนในการช่วยลดปริมาณคาร์บอนอย่าง “เซ็นทรัล เวสต์วิลล์” นับเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของภาคเอกชน ภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
โดยโครงการยังได้ขอการรับรองอาคารยั่งยืนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์ TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) ของสถาบันอาคารเขียวไทย โดยคำนึงถึงเรื่องต่างๆ ดังนี้
1. ENERGY & TEMPERATURE : ส่งเสริมเรื่องการวางผังอาคารโดยคำนึงถึงทิศทางของลม แสง (Passive Design) การใช้พลังงานสะอาด (Clean Energy) และการประหยัดพลังงาน (Energy Efficiency) โครงการเลือกใช้วัสดุเพื่อลดความร้อนเข้าสู่อาคาร ติดตั้ง Air Scrubber เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศ รวมถึงติดตั้งโซลาร์เซลล์บนอาคารศูนย์การค้า และที่จอดรถ ซึ่งมีกำลังการผลิตสูงสุด 2.1 MWp
ทำให้โครงการนี้สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้สูงสุดเมื่อเทียบกับศูนย์ฯ อื่นๆ โดยคาดว่าจะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าตลอดทั้งปี ได้มากกว่า 50% ของโครงการปกติ ลดการปล่อยคาร์บอนได้ 3,412 ตันต่อปี เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 341,200 ต้น นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการใช้พลังงานภาคขนส่งเป็นพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ด้วยการจัดให้มีที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบเร็ว หรือ DC Charger สำหรับให้บริการแก่ลูกค้ามากกว่า 10 ช่องจอด
2. GREEN SPACE & LANDSCAPE : ปลูกต้นไม้มอบอากาศบริสุทธิ์ ด้วย พื้นที่สีเขียว ดูดซับคาร์บอนได้ โดยออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 75% จากพื้นที่เปิดโล่งเชิงนิเวศ
3. WASTE & WATER MANAGEMENT : ระบบการจัดการทรัพยากรน้ำและขยะ โดยโครงการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลมากกว่า 30% ลดปริมาณขยะ ฝุ่น และมลพิษ จากการก่อสร้าง รวมถึงการรีไซเคิลเสาเข็ม ร่วมด้วยระบบจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงใช้เทคโนโลยีต่างๆ และติดตั้งสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำในอาคารทำให้สามารถประหยัดน้ำได้มากขึ้น 25% จากโครงการปกติ
นอกจากนี้ ยังเป็นต้นแบบแรกที่ทำการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามหลักการประเมินวัฎจักรชีวิตของอาคาร ซึ่งพบว่าอาคารสามารถลดปริมาณของศักยภาพที่ทำให้เกิดโลกร้อน (Global Warming Potential: GWP) เมื่อเทียบกับอาคารทั่วไปได้มากกว่า 50% อีกทั้งได้ดำเนินการชดเชยปริมาณการปล่อยคาร์บอนดังกล่าวเพื่อสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน (ในบางส่วนของวัฏจักร) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เซ็นทรัล เวสต์วิลล์ “Semi-Outdoor and Low Carbon Mall” เตรียมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ 29 พฤศจิกายน นี้ พร้อมจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมด้านความยั่งยืนจากกลุ่มพันธมิตร Green Partnership ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2566 ด้วย