Acer Group ได้ให้คำมั่นว่าจะปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ.2593 (ค.ศ. 2050) ซึ่งปีที่แล้ว นายอลัน เจียง กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ให้ข้อมูลว่า เอเซอร์ในปี พ.ศ.2565 สามารถเติบโตได้กว่า 40% กลับมาครองตำแหน่งผู้นำในตลาดคอมพิวเตอร์ด้วยส่วนแบ่งกว่า 23% ขณะเดียวกันได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่ในการก้าวข้ามธุรกิจพีซี สู่การเป็น “ไลฟ์สไตล์แบรนด์” สร้างการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้กว้างขึ้น จากสินค้าที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่เครื่องฟอกอากาศ จนถึงเครื่องดื่มชูกำลัง
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เอเซอร์ กล่าวว่า การทรานสฟอร์มเอเซอร์สู่ไลฟ์สไตล์แบรนด์ ดำเนินการภายใต้เป้าหมายการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจ ที่ครอบคลุมถึงพันธมิตร อีโคซิสเต็มพาร์ตเนอร์ และสิ่งแวดล้อม โดยเอเซอร์ได้เข้าร่วมโครงการ RE100 ระดับโลก และประกาศคำมั่นที่จะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี พ.ศ.2578 (ค.ศ.2035) และยังสร้างความท้าทายให้กับองค์กรด้วยการประกาศเป้าใช้พลังงานหมุนเวียน 60% ภายในปี พ.ศ. 2568 (ค.ศ.2025) หลังประสบความสำเร็จกับการปรับใช้พลังงานหมุนเวียน 45% ในปี พ.ศ.2564 (ค.ศ.2021)
เมื่อเมษายนที่ผ่านมา เอเซอร์ กรุ๊ป ที่ไต้หวัน ได้ประกาศให้คำมั่นที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปีพ.ศ.2593 (ค.ศ.2050) และประกาศกลยุทธ์ 9 ประการ ภายใต้ 3 เสาหลักของการปฏิบัติการ ผลิตภัณฑ์และบริการ และห่วงโซ่คุณค่า
กลยุทธ์ 9 ประการ ได้แก่ ลดการใช้พลังงานให้เหลือน้อยที่สุด ใช้พลังงานทดแทน การกำจัดและการชดเชยคาร์บอน ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคาร์บอนตํ่า เลือกวัสดุที่ยั่งยืน แอปพลิเคชันอัจฉริยะ หมุนเวียน และหมุนเวียน มุ่งมั่นที่จะลดคาร์บอน การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และโลจิสติกส์ และตระหนักถึงเศรษฐกิจคาร์บอนตํ่าและเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยรวม
เอเซอร์ ยังได้ลงนามในข้อตกลงการซื้อพลังงานระดับองค์กร (CPPA) ระยะยาวเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนกับ Energy Helper TCC Corp. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Taiwan Cement Corp. จะจัดหาพลังงานลมประมาณ 10 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายในการจัดหาไฟฟ้าหมุนเวียน 100% ภายในปี พ.ศ. 2578 และมุ่งไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2593
พร้อมกันนี้ ยังดำเนินการนำวัสดุ PCR หรือพลาสติกรีไซเคิล กลับมาใช้ในผลิตภัณฑ์หลักทั้งโน้ตบุ๊ก เดสก์ท็อป และมอนิเตอร์ เริ่มจาก Acer Vero ที่วางจำหน่ายและได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยมีเป้าใช้วัสดุที่เป็นพลาสติก PCR ในผลิตภัณฑ์หลักสูงถึง 30% ในปี พ.ศ.2568
นายนิธิพัทธ์ กล่าวอีกว่า เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ เดินเครื่องโครงการ Earthion พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เปิดตัว Acer Aspire Vero โน้ตบุ๊กรักษ์โลกที่เป็น Eco Design ใช้วัสดุ PCR (Post-Consumer Recycled) โดยเอเซอร์คิดว่า ต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเกี่ยวกับความยั่งยืน ที่แบ่งเป็น 3 หมวดหมู่ ได้แก่ Climate change มุ่งเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียน ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ มีการใช้พลังงาน น้อยลง 45% ภายในปี 2025 โดยเทียบกับปี 2016 เอเซอร์มีส่วนผลักดันให้ ซัพพลายเออร์ มุ่งมั่นในการปฏิบัติตาม RE100 และ SBT เพื่อช่วยลดคาร์บอน, Circular Economy เพิ่มปริมาณการนำพลาสติก PCR 20-30% มาใช้ในสินค้ากลุ่มต่างๆ และ Social Impact พนักงานมีส่วนร่วมในโครงการและกิจกรรมเพื่อสังคมมากกว่า 90%
เอเซอร์ยังได้ขยายไลน์การผลิตในกลุามสินค้ารักษ์โลก ไม่เพียงแต่ โน๊ตบุ๊ค Acer Aspire Vero แต่ยังมีเครื่องฟอกอากาศ Router Wifi โปรเจอเตอร์ และอื่นๆ ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิต รวมถึงการปรับเปลี่ยนแพคเกจจิิ้งไปสู่วัสดุรีไซเคิลทั้งหมด
นอกจากการปรับแผนการผลิตในองค์กร เอเซอร์ยังจัดกิจกรรมร่วมกับคู่ค้า เพื่อลดปริมาณขยะอิเลคทรอนิกส์ (E-Waste) อาทิ “ถูกทิ้ง | ทิ้งถูก” โครงการด้าน E-Waste ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยตั้งจุดทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ณ ศูนย์บริการเอเซอร์กว่า 10 สาขา และมีแผนจะเพิ่มจุดวางให้ได้มากขึ้น คาดว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นปริมาณการจัดเก็บได้อีก 20%
อีกหนึ่งกิจกรรมคือ “ทอใหม่ (จาก) เส้นใย ขวดเก่า” รวบรวมและนำส่งขวดนํ้าพลาสติก สให้กับศูนย์การเรียนรู้และจัดการขยะชุมชน “วัดจากแดง” เพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นเส้นใยพลาสติกและผลิตเป็นผ้าไตรจีวรสำหรับพระสงฆ์ ตั้งแต่เริ่มกิจกรรมจนถึงขณะนี้ได้ส่งต่อขวดนํ้าพลาสติกไปยังวัดจากแดง รวมแล้วมากกว่า 1,800 ขวด ช่วยผลิตผ้าไตรจีวรได้มากว่า 120 ชุด และกิจกรรม “เหลือขอ : ขอที่เหลือ เพื่อแบ่งปัน” ร่วมกับมูลนิธิบ้านนกขมิ้นสร้างคุณค่าให้กับของเหลือใช้ ส่งต่อเป็นโอกาส รายได้สำหรับค่าอาหาร ค่าเทอมให้กับเด็ก ๆ
นอกจากนี้ ยังร่วมกับคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เก็บข้อมูลขยะต่าง ๆ และจัดทำเสื้อยูนิฟอร์มเอเซอร์ ที่ทำจากขวดพลาสติก ให้กับพนักงานของเอเซอร์ รวมทั้งแคมเปญลดการใช้ลิฟท์ ลดการใช้ขวดพลาสติก เป็นต้น
นายนิธิพัทธ์ ยํ้าว่า การเลือกผลิตสินค้าออกสู่ตลาด รวมทั้งการสร้างสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับวิถีชีวิตของผู้ใช้งาน และต้องเป็นสินค้าที่มีโอกาสในการทำตลาดได้ เป้าของบริษัทแม่ดูเรื่องความยั่งยืน ตัวไหนที่สามารถแทนด้วยวัสดุรีไซเคิลได้ เอเซอร์ทำแน่นอน และต้องขยายไลน์ออกไปเรื่อย ๆ