นายเทอดเกียรติ พร้อมมูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กรและความยั่งยืน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงาน “SUSTAINABILITY FORUM 2024” หัวข้อ "PTT Synergy for Sustainability" ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ปตท.ได้นำแนวคิด ESG เข้ามาปรับไปตั้งแต่กลยุทธ์ แผนปฎิบัติการ รวมถึงเป้าหมายธุรกิจ การที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่าภาคพลังงานปล่อยคาร์บอน 70% ปตท. อยู่ในกลุ่มดังกล่าว จึงต้องให้ความสำคัญ
ทั้งนี้ ปตท. กำหนดแนวทางการดำเนินงาน 3 ด้านหลัก หรือ 3P ประกอบด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ปตท.ได้เปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่เป็น Powering Life with future energy and beyond จากเดิมที่เป็น ออยล์และแก๊ส กับปิโตรเคมิคัลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแนวโน้มจะลดลงในอนาคต ดังนั้น หากจะเติบโตต่อไปจะต้องหาธุรกิจใหม่และก้าวออกไปดำเนินธุรกิจนอกประเทศ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานด้าน ESG นั้น จะต้องบริหารงานเป็นกลุ่ม เปลี่ยนมาจากการปิโตเลียมแห่งชาติปี 2544 และปตท. ถือหุ้นบริษัทในกลุ่มโดยตรง 36 บริษัท และมีบริษัทที่แตกลูกออกมาอีก 450 บริษัท รวมกว่า 4 หมื่นคน การบริหารองค์กรที่ซับซ้อนต้องบริหารด้วยความรอบคอบ จึงต้องทำความเข้าใจกับพนักงานให้มีแนวคิดเดียวกัน
"สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีได้ประกาศเป้าหมาย Net Zero แบบมีเงื่อนไขในปี 2608 คือต้องมีประเทศที่แข็งแรงสนับสนุน ดังนั้น กลุ่มปตท. ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ 6 บริษัท บวกปตท. เป็น 7 จึงต้องกำหนดเป้าหมาย Net Zero ให้เร็วกว่า แบ่งเป็น 4 บริษัทในปี ค.ศ. 2050 และอีก 3 องค์กรอาจมีข้อจำกัดและช้ากว่า แต่ก็ถือว่าเร็วกว่าที่ประเทศกำหนด"