นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรที่สำคัญอย่างทีโอเอ เพื่อผลักดันแนวคิด การคัดสรรวัสดุก่อสร้างจากพันธมิตรธุรกิจ ที่เน้นประหยัดพลังงาน ลดความร้อน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้น้ำ รวมถึงการบริหารจัดการขยะและวัสดุเหลือใช้ในงานก่อสร้าง (Waste Management) ให้เหลือน้อยที่สุดหรือเป็นศูนย์ สามารถนำเศษวัสดุก่อสร้างมาต่อยอดให้เกิดมูลค่าและประโยชน์สูงสุด เพื่อช่วยกันคิดค้นนวัตกรรมและพัฒนากระบวนการก่อสร้าง
ทำให้การร่วมมือกันในครั้งนี้เกิด โปรเจกต์ยักษ์ “ฝ้ายิปซัม รักษ์โลก” ที่นำร่อง 2 โครงการคอนโดมิเนียม ได้แก่ ‘ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ และ ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ - รัตนาธิเบศร์’ โดยการนำเศษฝ้าที่เหลือใช้จากงานก่อสร้างหน้างาน นำมาผ่านกระบวนการใหม่ได้ถึง 13.26% ทำให้ช่วยลดของเสียได้กว่า 10% ที่ได้คุณภาพมาตรฐานดีเหมือนเดิม และยังช่วยลดวัสดุเหลือใช้ นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 2.50 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อตารางเมตร
และนวัตกรรม “สีรักษ์โลก รุ่น Expert” ที่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกจากการลดการใช้สีรองพื้น สำหรับโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมของศุภาลัย ซึ่งเป็นนวัตกรรมสีทับหน้ารวมรองพื้นไว้ในกระป๋องเดียว สามารถทาง่ายเพียง 2 เที่ยว ไม่ต้องทารองพื้น ช่วยประหยัดเวลา ลดขั้นตอนการทำงานให้กับผู้ใช้งาน ที่สำคัญยังช่วยประหยัดการใช้น้ำได้อย่างมาก อาทิ การทาสี รุ่น Expert ในพื้นที่บ้านเดี่ยว 150 ตร.ม. ที่มีพื้นที่ฝ้า 450 ตร.ม. จะช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 78.70 ลิตรต่อหลัง
โดยทั้งสองนวัตกรรมดังกล่าว สามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 332,179 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ชดเชยการปลูกต้นสักได้ถึง 19,313 ต้น ภายใน 1 ปี ลดการใช้น้ำได้ถึง 98,347 ลิตรต่อปี นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการตั้งเป้าหมายในการใช้นวัตกรรมฝ้ายิปซัม รักษ์โลก กับอีก 23 โครงการใหม่ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 นี้อีกด้วย อย่างไรก็ดี จากที่กล่าวมาข้างต้นช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ทาสีรองพื้นได้ถึง 2,297 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการร่วมกันพัฒนานวัตกรรมสีรองพื้นและสีทับหน้ารูปแบบใหม่ Direct to Metal ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานสีรวมได้กว่า 10 ชั่วโมง จากรอบการทาและรอบรอสีแห้งที่ลดลง เมื่อเทียบกับสีรูปแบบเดิมโดยยังคงประสิทธิภาพสีเท่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการพัฒนานวัตกรรมในการก่อสร้างที่ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจอีกมากมาย ร่วมกันสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยรักษ์โลก เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมตลอดไป
ทั้งนี้ SPALI ตระหนักถึงการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้มีความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG โดยมีส่วนร่วมใส่ใจดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทเน้นย้ำมาโดยตลอดระยะเวลา 35 ปี โดยมีการตั้งเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 จาก BAU (Business As Usual) พร้อมตระหนักถึงการคิดค้น หาวิธีการและนวัตกรรมที่จะมาช่วยชดเชยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดจากกิจกรรมของธุรกิจอสังหาฯ
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA กล่าวว่า ในการจับมือกับพันธมิตรองค์กรสีเขียวอย่าง “ศุภาลัย” ที่มีนโยบายสู่การเป็นองค์กร Zero Waste เช่นเดียวกับบริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการของเสียให้เป็นศูนย์ เพื่อช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลักดันจนเกิดเป็นบิ๊กโปรเจกต์ “ฝ้ายิปซัม รักษ์โลก” ที่มีแนวคิดมาจากการพยายามลดเศษวัสดุฝ้าเหลือใช้ที่จะกลายเป็นของเสียในโครงการก่อสร้างต่างๆ แล้วนำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจของสองพันธมิตรผู้นำนวัตกรรมสีเขียวที่มีเป้าหมายเดียวกัน ในการคิดและลงมือทำร่วมกัน เพื่อช่วยโลกลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อย่างยั่งยืน