นายรณยศ เลี้ยงอำนวย Deputy CEO บริษัท แอดวานซ์ บิสซิเนส โซลูชั่น แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ ABSS กล่าวว่า ABSS เปิดตัว IRIS Warehouse Optimization AI Picking ซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่เข้ามาช่วยเพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่งเสริมการสร้างรายได้เพิ่มให้กับผู้ประกอบการ
IRIS Warehouse Optimization AI Picking เป็นซอฟท์แวร์ทางด้านการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Operation) ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า ทำให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ากับทุกประเภทธุรกิจ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนโรงงานให้นำสมัย สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ร่วมกันผ่านเครือข่าย ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และใช้ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนต่างๆ ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคลังสินค้า โดย Warehouse Automation ช่วยจัดการในส่วนของ Warehouse Productivity ได้เป็นอย่างดี
IRIS AI Picking Optimization สามารถทำงานกว่าซอฟท์แวร์ทั่วไป โดยใช้ A.I./M.L. มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มการจัดการหรือจัดส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนในการจัดการคลังสินค้า และส่งผลโดยอ้อมต่อการเพิ่มกำลังการผลิต เช่น การหยิบสินค้าในคลังสินค้าจะช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานไปได้ถึง 55% ลดการเสียเวลาการเดินทางเพื่อจัดสินค้าไปได้ถึง 35% ตอบโจทย์ B2B ที่สนับสนุนลูกค้าให้ทำงานง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในระยะเวลาที่สั้นลง
ที่ผ่านมา ABBS มีการพัฒนาบาร์โค้ดโซลูชั่น และระบบจัดการ ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลหลายด้าน ได้แก่ มาตรฐาน ISO 9001 เป็นการรับรองการบริหารจัดการระบบการบริหารคุณภาพทั่วทั้งองค์กร รวมถึงการควบคุมออกแบบผลิตภัณฑ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ การติดตั้งและบริการ มาตราฐาน ISO/IEC 20000-1 เป็นการรับรองมาตรฐานการจัดการด้านบริการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสิทธิผล ISO/IEC 27001 และ ISO/IEC 27701 เป็นมาตรฐานด้านการบริหารระบบการจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อีกทั้งยังได้การรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 29110
ABSS ตระหนักว่าโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายเป็นรากฐานของการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ต่างๆ ของผู้ใช้งานกับระบบควบคุมข้อมูลเพื่อจัดเก็บข้อมูลและส่งต่อข้อมูลให้เร็วขึ้นและแม่นยำมากขึ้น องค์กรต่างๆ จึงต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้ เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ ทั้งในองค์กรและนอกองค์กร รวมถึงองค์กรต่างประเทศ เพื่อการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ โครงสร้างพื้นฐานที่สามารถเชื่อมต่อกันสามารถเพิ่มโอกาสให้กับอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า, ระบบโลจิสติกส์, อุตสาหกรรมค้าปลีก, อุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงการบริการต่างๆ ซึ่งเครือข่ายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเป็นปัจจัยสำคัญ ในการกำหนดทิศทางความสำเร็จขององค์กร