OPPO ทุ่มหมื่นล้านหนุนนักพัฒนาและครีเอเตอร์ สร้างสรรค์นวัตกรรมอัจฉริยะ

Pete Lau, Senior Vice President and Chief Product Officer at OPPO กล่าวว่า“เราจะอยู่ในโลกที่มีอุปกรณ์อัจฉริยะอยู่ทุกหนแห่ง อุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านี้ไม่ควรแค่เชื่อมต่อกันได้เท่านั้น แต่ควรได้รับการผสานรวมเข้าด้วยกันเพื่อให้บริการผู้ใช้และช่วยให้อนาคตของ Internet of Experience เป็นจริง"

"ในฐานะที่เรากำลังกลายเป็นบริษัทที่มี ecosystem ทางเทคโนโลยี เราตั้งตารอที่จะได้ร่วมมือกับนักพัฒนาและพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้าง ecosystem ที่เปิดกว้าง พึ่งพาอาศัยกัน และรุ่งเรืองแก่ทุกคน”

 

Pantanal ระบบข้ามแพลตฟอร์มอัจฉริยะ

ในระหว่างงาน ODC 2022 OPPO ได้เปิดตัว Pantanal ซึ่งเป็นระบบข้ามแพลตฟอร์มระบบแรกที่ออกแบบมาเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดระหว่างอุปกรณ์และระบบต่างๆ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันได้อย่างแท้จริง ด้วยความสามารถในการตรวจจับข้ามอุปกรณ์และการประมวลผล Pantanal สามารถเข้าใจและคาดการณ์ความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น และให้บริการในเวลาที่เหมาะสมด้วยวิธีที่ถูกต้อง

 

ระบบข้ามแพลตฟอร์ม Pantanal จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาและปรับใช้บริการบนหลายแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น ทั้งยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพอีกด้วย

 

OPPO Carlink โซลูชัน เพื่อการผสานรวมสมาร์ทโฟนและรถยนต์

 

ด้วยจำนวนของผู้คนที่หันมาพึ่งพาอุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับบริการและความบันเทิงในรถยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ  OPPO ได้พัฒนา OPPO Carlink เพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันและการบูรณาการระหว่างสมาร์ทโฟนและรถยนต์ โดย OPPO Carlink ได้นำเสนอรูปแบบใหม่สำหรับบริษัทสมาร์ทโฟนและรถยนต์ในการทำงานร่วมกัน โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงพลังการประมวลผลของสมาร์ทโฟนและระบบนิเวศของแอปโดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบ infotainment ในรถยนต์ ในขณะที่สมาร์ทโฟนสามารถให้บริการผ่านรถยนต์ผ่านการพุชซอฟต์แวร์ได้

ในงาน ODC 2022 OPPO ได้ประกาศความร่วมมือกับ SAIC Motor เพื่อทำงานร่วมกันในผสานรวมอุปกรณ์อัจฉริยะและรถยนต์ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงของ OPPO กับ Tesla China เมื่อต้นปีนี้ในการใช้สมาร์ทโฟน OPPO เป็น digital key สำหรับ Tesla Model 3 และ Model Y ในประเทศจีน

 

การวิจัยและพัฒนาร่วมกันนำไปสู่ประสบการณ์การใช้งาน IoT ที่ชาญฉลาดและลื่นไหล

 

OPPO ได้ขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์อย่างต่อเนื่องในขณะที่สร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ OPPO ได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT ในกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่า 120% ทุกหมวดหมู่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา

 

ส่งเสริมนักพัฒนาทั่วโลกเพื่อสร้างระบบนิเวศแบบเปิดและบูรณาการ

 

นักพัฒนามากกว่า 300,000 คนและครีเอเตอร์กว่า 700,000 คนร่วมกับ OPPO เพื่อมอบผลิตภัณฑ์และบริการของตนให้กับผู้ใช้ในหลายแพลตฟอร์ม โดย OPPO Open Platform รองรับนักพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น บริการแอป การประมวลผลกราฟิก และการเชื่อมต่อระหว่างกัน

OPPO ยังประกาศว่าจะจัดสรรทรัพยากรมูลค่า 2 พันล้านหยวน  หรือ ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท สำหรับ Gravity Plan ในปี 2023 เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาในการสร้าง ecosystem ร่วมกันอีกด้วย

 

พัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยเวชศาสตร์ป้องกัน

 

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ อัลกอริธึม และวิทยาศาสตร์ข้อมูล OPPO ได้กำลังหาทางพัฒนาสุขภาพของผู้ใช้ผ่านแนวทางด้านเวชศาสตร์ป้องกัน

 

ในงาน ODC 2022 OPPO ได้ประกาศเปิดตัวอัลกอริธึม OPPO Sense® ที่ OPPO เป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งมีความก้าวหน้าในด้านสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ฟิตเนส และการติดตามการนอนหลับ นอกจากนี้ OPPO จะยังคงร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างผลิตภัณฑ์ IoT และพัฒนาแอป ฮาร์ดแวร์ และบริการการจัดการด้านสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจหาอาการแรกเริ่มของโรคเรื้อรังบางชนิด

 

ในระหว่างงาน OPPO ยังได้แชร์ข้อมูลอัปเดตจาก OPPO Research Institute Innovation Accelerator ที่เพิ่งสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา โครงการนี้ได้เปิดตัวไปเมื่อต้นปีเพื่อส่งเสริมให้มืออาชีพด้านเทคโนโลยีและผู้ประกอบการนำโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมมาสู่ชีวิต และสร้างอนาคตที่ดีกว่าร่วมกันกับออปโป้ จากการส่งผลงาน 536 รายการจาก 39 ประเทศและภูมิภาค มีการคัดเลือกโครงการที่ชนะการประกวด 10 รายการ โดยแต่ละโครงการจะร่วมค้นหาแนวทางที่เป็นนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายในด้าน Accessible Technology และ Digital Health  โดยนอกจากจะได้รับเงินรางวัลจำนวน 46,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว ผู้ชนะทั้งสิบรายจะได้รับการสนับสนุนจาก OPPO และพันธมิตรในการพัฒนาและนำไอเดียไปปฏิบัติต่อไป

 

ตามพันธกิจของแบรนด์อย่าง "Technology for Mankind, Kindness for the World" OPPO ยังคงทำงานเพื่อสร้างแพลตฟอร์มเปิดที่อำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันกับนักพัฒนาและพันธมิตรอื่นๆ ด้วยการร่วมมือกับนักพัฒนาและพันธมิตรมากขึ้น OPPO จะยังคงเสริมสร้างและขยายระบบนิเวศ โดยนำการเชื่อมต่อที่ลื่นไหลและประสบการณ์การใช้งานชาญฉลาดมาสู่ผู้ใช้ทั่วโลกมากขึ้น