บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) สนับสนุนทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน Delta International Smart & Green Manufacturing Contest หรือ เดลต้า คัพ (Delta Cup) ครั้งที่ 8 โดยในปีนี้สามทีมตัวแทนประเทศไทยได้ผ่านการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ และสองในสามทีมสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันออนไลน์รอบสุดท้าย
หัวข้อของเดลต้าคัพในปีนี้คือ การเฟ้นหาผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีการผลิตคาร์บอนต่ำ โดยมี 102 ทีมจาก 328 โรงเรียนที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ และมีเพียง 15 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย เดลต้า กรุ๊ป จัดการแข่งขันนี้เป็นประจำทุกปีเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษามีโอกาสได้ทดลองและพัฒนานวัตกรรมด้านระบบอัตโนมัติ โซลูชันการผลิตอัจฉริยะ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เป้าหมายของเดลต้า คัพ คือการจุดประกายความหลงใหลในกลุ่มเยาวชนที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีอัตโนมัติผ่านการเสริมสร้างทักษะด้านการออกแบบ การเขียนโปรแกรม และการตรวจสอบงาน พร้อมผสานทฤษฎีเข้ากับการปฏิบัติ โดยการแข่งขันด้วยวิธีนี้ จะช่วยให้เดลต้าบรรลุพันธกิจ “มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า" และสะท้อนถึงคำมั่นสัญญาของเดลต้าที่ว่า "Smarter. Greener. Together"
เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดในการเดินทาง เดลต้า คัพ จึงจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์เป็นครั้งที่สอง ซึ่งสามทีมตัวแทนประเทศไทยได้ร่วมขับเคี่ยวกับทีมนักศึกษาชั้นยอดทั่วโลก และสามารถคว้ารางวัลสำหรับโครงการนวัตกรรมระบบอัตโนมัติดังต่อไปนี้:
1.รางวัลชนะเลิศ ทีม Gaia จากมหาวิทยาลัยมหิดล นำเสนอโครงงาน Carbon Polymerizing System ระบบจุลินทรีย์อัตโนมัติที่สามารถเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นพลาสติกที่ย่อยสลายทางชีวภาพที่เรียกว่า Polyhydroxybutyrate (PHB) ระบบนี้มีความสามารถในการลดปริมาณคาร์บอนส่วนเกินในชั้นบรรยากาศและสร้างพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ถึง 90% ภายในเวลา 10 วันโดยไม่ทิ้งเศษเมื่อสิ้นสุดวงจรชีวิตของมัน
โดยโครงงานทดลอง Carbon Polymerizing System Project ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติของเดลต้า ดังต่อไปนี้:
• อุปกรณ์ควบคุมระบบ AS200 PLC 1 ตัว
• ระบบ DIAView SCADA
• แพลตฟอร์ม DIACloud
• หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะ DRV70L 1 ตัว
• AC มอเตอร์ไดรฟ์ ASDA-A3 5 ตัว
• เซอร์โวมอเตอร์ ECMA-C20401SS AC กำลังไฟ 400W 5 ตัว
• วาล์วควบคุม 3 ตัว
• ปั๊มรีดท่อ 1 ตัว
• มิเตอร์วัดพลังงานไฟฟ้า DPM-C530 1 ตัว
2.รางวัลรองชนะเลิศ ทีม Olo Plus จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำเสนอโครงงาน Re-electric Warehouse ระบบแปลงพลังงานการสั่นสะเทือนของเครื่องจักรอุตสาหกรรมผ่านแผ่นเพียโซอิเล็กทริกเป็นพลังงานไฟฟ้า จากนั้นพลังงานไฟฟ้าจะถูกส่งไปยังระบบ PLC และสายพานลำเลียงเพื่อขนส่งสินค้าไปยังคลังสินค้าต่อไป
โดยโครงงานทดลอง Re-electric Warehouse ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติของเดลต้า ดังต่อไปนี้:
• อุปกรณ์ควบคุมระบบ (PLC) PLC-AS218RX-A
• หน้าจอสัมผัสรับ-ส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้กับเครื่องจักร (HMI) DIAVH-PPCXXXA
• มิเตอร์วัดพลังงานไฟฟ้า
• สวิตช์อีเธอร์เน็ตอุตสาหกรรม DVS-008W01 3 ตัว
• ตัวแปลงเครือข่ายอุตสาหกรรม IFD9506 1 ตัว
• พาวเวอร์ซัพพลาย 24vdc 1 ตัว
• โฟโต้อิเล็กทริกเซนเซอร์ 4 ตัว
3.รางวัลรองชนะเลิศ ทีม F-Embedded จากมหาวิทยาลัยบูรพา กับโครงงาน Smart Green Living นำเสนอระบบที่ช่วยควบคุมระบบ HVAC โดยจะทำการรวบรวมข้อมูลการใช้งานของผู้อยู่อาศัยและการใช้ไฟฟ้าของอาคารโดยรวม หลังจากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยัง DIACloud ของเดลต้าเพื่อประมวลผลและวิเคราะห์ โดยใช้ AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำและความเร็ว นอกจากนี้ AI ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับการทำงาน HVAC ให้เหมาะสมตามจำนวนคนในอาคาร เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานมากที่สุด
โดยโครงงานทดลอง Smart Green Living ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติของเดลต้า ดังต่อไปนี้:
• แพลตฟอร์ม DIACloud
• มอเตอร์ไฟฟ้า VFD-S AC 1 ตัว
• ระบบ DIAView SCADA
• มอเตอร์ไฟฟ้า AC Servo 3 ตัว
• อุปกรณ์ควบคุมระบบ Delta Programmable Logic Controller (PLC)
• ระบบแมชชีนวิชั่น DMV2000
• อุปกรณ์อีเธอร์เน็ต DX-2300LN-WW
• ตัวควบคุมอุณหภูมิ
เดลต้าได้สนับสนุนการเข้าร่วมแข่งขันของทีมตัวแทนจากประเทศไทยคว้ารางวัลเดลต้า คัพมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ไม่วาจะเป็นทีมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
เดลต้ามีการจัดการฝึกอบรมและให้การสนับสนุนทีมไทยใน เดลต้า ออโตเมชัน อะคาเดมี (Delta Automation Academy) ห้องแล็บเดลต้า ออโตเมชัน (Delta Automation Labs) และเดลต้า คัพ (Delta Cup) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการพัฒนาสังคมและสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในยุคอุตสาหกรรม 4.0