แนวโน้มและศักยภาพในการเติบโตของตลาดในกลุ่มเทคโนโลยีด้านการลงทุน หรือ Wealth Tech ในปัจจุบันมีการเติบโตอย่างมากและมีบทบาทสำคัญในตลาดโลก อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่าในกลุ่มฟินเทคที่มีแนวโน้มจะถูก ดิสรัปต์ได้สูงสุด คือ เวลธ์ เทค
นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งจิตตะ เปิดเผยว่า จิตตะเตรียมเปิดให้บริการจิตตะ เวลธ์ (Jitta Wealth) กองทุนที่บริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีลงทุนในหุ้นตามการวิเคราะห์จัดอันดับของจิตตะ แรงกิ้ง (Jitta Ranking) แพลตฟอร์มการจัดอันดับหุ้นน่าลงทุนโดยจะจัดเรียงหุ้นดี ราคาถูกโดยที่นักลงทุน ไม่จำเป็นต้องมานั่งดูหรือวิเคราะห์หุ้นทีละตัว
ทั้งนี้จิตตะ เวลธ์ จะเน้นลงทุนระยะยาวให้ผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯภายใต้การดำเนินการของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาตการจัดการกองทุนส่วนบุคคลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 สำหรับ จิตตะ เวลธ์ นั้นจะเป็นทางเลือกให้นักลงทุนรายย่อยได้ใช้บริการ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีค่าบริหารจัดการอยู่ที่ 0.5% ต่อปี และหากนักลงทุนมีกำไรจะคิดค่าธรรมเนียม 10% ของกำไรที่นักลงทุนได้รับ
ขณะที่สิ่งที่สำคัญคือเรื่องของความโปร่งใสด้านการลงทุน ซึ่ง จิตตะได้นำเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ หรือ เข้ามาใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคล
ด้านนายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด หรือ Beacon VC ในธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า Beacon VC ได้มองเห็นแนวโน้มและศักยภาพในการเติบโตของตลาดในกลุ่มเวลธ์ เทค โดยจิตตะได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของเวลธ์เทคด้วยอัลกอริธึมในการวิเคราะห์หุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาวอีกทั้งยังมีฐานผู้ใช้ที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง Beacon VC จึงได้มีการลงทุนครั้งใหญ่ด้วยมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท
หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,445 ระหว่างวันที่ 17 - 20 กุมภาพันธ์ 2562