ทรูมันนี่ จับมือ กูเกิลเพลย์ เพิ่มช่องทางชำระเงิน ตั้งเป้าปี 62 ผู้ใช้วอลเลตทะลุ 10 ล้านราย
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทรูมันนี่ วอลเลต ได้เคยผนึกพันธมิตรกับแอปเปิล เพื่อรับชำระเงินในการซื้อแอพพลิเคชันและเกมผ่านแอป สโตร์ (App Store) มาแล้ว ล่าสุดทรูมันนี่ก็ได้ตอบโจทย์ผู้ใช้สมาร์ทโฟนในฝั่งแอนดรอยด์ ที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายและต้องการเข้าถึงดิจิทัลคอนเทนต์บนกูเกิลเพลย์ แต่ไม่มีบัตรเครดิต ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับกูเกิล เพื่อรองรับการชำระเงินบนช่องทาง กูเกิล เพลย์
อีกทั้งจากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของ B2C (Business to Consumer) สูงเป็นอันดับที่ 1 ในอาเซียน เมื่อเทียบมูลค่าระหว่างปี 2559 กับปี 2560 นั้นเพิ่มถึงกว่า 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากเทคโนโลยีอี-เพย์เมนต์ (e-Payment)
นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ทรู มันนี่ วอลเลต (TrueMoney Wallet) มีผู้ใช้งานอยู่ราว 7 ล้านคนต่อเดือน โดยในปีนี้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดผู้ใช้งานเป็น 10 ล้านคน ด้วยการผลักดันการใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) กับผู้คนในทุกๆ กลุ่ม รวมถึงการชำระเงินด้วย ทรู มันนี่ วอลเลต บนกูเกิล เพลย์ ที่เป็นหนึ่งในบริการชำระเงินออนไลน์หลัก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานมือถือระบบแอนดรอยด์หลายล้านคน นอกจากนี้ทรูมันนี่ยังเร่งขยายพันธมิตรร้านค้าที่รองรับบริการการชำระเงินผ่านทรูมันนี่แบบออฟไลน์ โดยในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนร้านค้าเป็น 3 แสนร้าน จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 2 แสนร้าน
ด้านนายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ผู้อำนวยการฝ่ายทางพาณิชย์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันกูเกิล เพลย์ มีจำนวนผู้ใช้งาน (active users) มากกว่า 1 พันล้านคนจาก 190 ประเทศทั่วโลก ซึ่งพันธมิตรที่สำคัญของทรู มันนี่นั้นหลักๆ ยังคงเป็นเกม แต่ก็ยังเปิดตลาดให้กับพันธมิตรรายอื่นๆ ด้วย โดยฟีเจอร์นี้คาดว่าจะมีผู้ใช้ทรู มันนี่ วอลเลต เพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 ล้านราย จากการผนึกกับกูเกิล เพลย์ ซึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้มีผู้ใช้งานจะมาจากความสะดวกในการชำระเงินของผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต อีกทั้งการใช้ทรูมันนี่ วอลเลตนั้นสามารถช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการซื้อแอพพลิเคชันหรือเกมได้
