ครบรอบ 1 ปี LINE JOBS ก้าวเป็นผู้ช่วย HR มือฉมัง ฉีกกฏการหางานแบบเดิมๆ เชื่อมต่อคนกับงานแล้วกว่า 2 แสนอัตรา เตรียมขึ้นแท่นเป็นเบอร์หนึ่งแพลตฟอร์มหางานสำหรับกลุ่มปฏิบัติการ (Semi-Skilled) ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดแรงงานอันดับหนึ่งของไทย เดินหน้าผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำของเมืองไทยทั้งองค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มสตาร์ทอัพ และ SMEs สร้างงานให้คนไทยและป้อนคนให้เหมาะกับงานทันการเติบโตของธุรกิจ
ธนิยา ตรัยวัฒนา หัวหน้าธุรกิจ LINE JOBS กล่าวว่า ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา LINE JOBS ได้รับการตอบรับจากทั้งผู้จ้างงานและผู้สมัครงานดีเกินเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งแต่เดิมเราได้ตั้งเป้าหมายให้การเปิดตัวใน 1 ปีแรกเป็นช่วงเวลาของการสร้างความรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายถึงช่องทางการรับสมัครรูปแบบใหม่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการแก้ pain point ของการประกาศงานและสมัครงานแบบเดิม
“ทรัพยากรบุคคลถือเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ แต่กว่าที่จะได้คนที่เหมาะกับงานเพื่อช่วยให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า เรายังพบว่าหนึ่งในขั้นตอนที่ยังมี pain point มากมายที่รอคอยการแก้ไข คือ การรับสมัครงาน ซึ่งแม้จะมีช่องทางการจัดหางานออนไลน์เป็นช่องทางหลักอยู่แล้ว แต่พบว่ายังมีอุปสรรคทั้งผู้จ้างงานและผู้สมัครงาน อาทิ ความล่าช้า ราคาสูง ต้องลงทะเบียนและกรอกข้อมูลจำนวนมาก ทำให้ยอดผู้หางานผ่านเว็บไซต์มีจำนวนไม่เกิน 2 ล้านคน สะท้อนถึงจำนวนผู้จ้างงานและผู้สมัครงานที่ยังอยู่บนโลกออฟไลน์อีกมาก ด้วยโอกาสที่มองเห็นประกอบกับข้อได้เปรียบของ LINE ที่มีผู้ใช้งานทั่วประเทศกว่า 44 ล้านคน จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาแพลตฟอร์มหางานที่ปักธงไว้ชัดเจนว่าจะพัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับและแก้ปัญหาตลาดแรงงานไทยแบบรอบด้านบนแอพพลิเคชั่น LINE”
โดยภายหลังจากการเปิดบริการมาแล้ว 1 ปีเต็ม LINE JOBS ประสบความสำเร็จเกินคาด โดยมีผู้ติดตามในระบบกว่า 7 ล้านคน มีงานที่เปิดรับสมัครใน LINE JOBS แล้วมากกว่า 390,000 อัตรา จากผู้จ้างงานกว่า 18,000 บริษัท และมีผู้ส่งใบสมัครงานกว่า 1 ล้านใบสมัคร โดยมีการเรียกสัมภาษณ์งานกว่า 200,000 ครั้ง และภายในปี 2562 ตั้งเป้าจำนวนผู้ติดตามไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน โดยคาดว่าจะมีผู้ส่งใบสมัครไม่ต่ำกว่า 1.4 ล้านใบสมัคร และจะมีการเรียกสัมภาษณ์งานไม่น้อยกว่า 240,000 ครั้ง โดยตั้งเป้าอัตราการเพิ่มขึ้นของใบสมัครและจำนวนการถูกสัมภาษณ์ผ่านทาง LINE JOBS ไม่ต่ำกว่า 40% ภายในสิ้นปีนี้
จากความสำเร็จในปีผ่านมา LINE JOBS จะยังคงเดินหน้าเจาะตลาดแรงงานสำหรับกลุ่มปฏิบัติการ หรือ semi-skilled อาทิ อาชีพงานแรงงานทั่วไป แรงงานด้านการผลิต พนักงานบริการ พนักงานขาย เสมียน เจ้าหน้าที่ทั่วไป ที่ถือเป็นกลุ่มแรงงานที่มีสัดส่วนถึง 42 เปอร์เซ็นต์ของตลาดแรงงานไทยทั้งหมด และยังเป็นกลุ่มที่มีอัตราการลาออกสูงถึง 30 – 300% ต่อปี จึงเป็นกลุ่มแรงงานที่ผู้จ้างงานต้องหาลูกจ้างมาเติมในธุรกิจอยู่ตลอดเวลา และยังไม่มีแพลตฟอร์มหางานใดที่เข้ามาจับตลาดในกลุ่มนี้อย่างจริงจัง และวางกลยุทธ์เชิงรุกสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งแพลตฟอร์มหางานสำหรับกลุ่มปฏิบัติการ (Semi-Skilled) ภายในปี 2563
ธนิยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ก้าวต่อไปของ LINE JOBS จะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มและการบริการทุกมิติ เน้นการสร้างฐานที่แข็งแกร่งในกลุ่ม Semi-Skilled พร้อมการขยายประเภทงานให้ครอบคลุมความต้องการที่เพิ่มขึ้น จากเดิม 8 ประเภทงาน 6 ธุรกิจ เป็น 22 ประเภทงาน 40 ธุรกิจ เพื่อรองรับงานที่หลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่ระดับปฏิบัติการ, หัวหน้างาน รวมทั้งงานประเภทพาร์ทไทม์ และฟรีแลนซ์ และการขยายฐานองค์กรผู้ใช้งานโดยการออกแบบแพ็คเกจใช้งานให้ตอบโจทย์องค์กรทุกขนาดทั้งใหญ่ กลาง เล็ก และการจับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับตลาดแรงงานและสนับสนุนองค์กรให้ได้มีแรงงานคุณภาพในการผลักดันธุรกิจให้เติบโตในอนาคต
“ข้อได้เปรียบที่ทำให้ LINE JOBS แตกต่างจากแพลตฟอร์มหางานอื่นคือ การเป็นองค์กรเทคโนโลยีจึงทำให้ปรับตัวได้เร็ว และมีทีมพัฒนาทำให้สามารถดูแลระบบ รับฟังฟีดแบคจากผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา จึงทำให้มีการพัฒนาระบบอยู่เสมอเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนในยุคปัจจุบัน คือ สะดวก ง่าย รวดเร็ว จึงทำให้ขั้นตอนกรอกข้อมูลสมัครงานผ่าน LINE JOBS สามารถทำได้ภายในระยะเวลาอันเร็ว ส่งผลให้การแมทชิ่งระหว่างคนกับงานง่ายและสมบูรณ์ที่สุด” ธนิยา กล่าวในตอนท้าย