“สมเกียรติ”อัด กทม.ให้เอกชนผูกขาดท่อร้อยสาย

20 มิ.ย. 2562 | 07:18 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ก.ค. 2562 | 03:16 น.

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ได้โพสเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า “ท่อร้อยสาย กทม. …ข่าวดีเล็กๆ กับข่าวร้ายใหญ่ๆ”

เพื่อนๆ ครับ ผมมี “ข่าวดีเล็กๆ” และเรื่องที่สงสัยว่าจะเป็น “ข่าวร้ายใหญ่ๆ” มาเล่าให้ฟังครับ อาจยาวนิดหนึ่งแต่อยากให้อ่านและแชร์ออกไปนะครับ

“ข่าวดีเล็กๆ” คือ กทม. มีแผนที่จะลดปัญหาการที่สายเคเบิ้ลต่างๆ แขวนรกหูรกตาอยู่บนเสาไฟฟ้า โดยจะย้ายสายเหล่านั้นลงไปใต้ดิน ให้ไปอยู่ใน “ท่อร้อยสาย” ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็น “มหานครไร้สายสื่อสาร” และเป็น “สมาร์ทซิตี้” ที่มีภูมิทัศน์สบายตาภายในปี 2564

ส่วนเรื่องที่สงสัยว่าจะเป็น “ข่าวร้ายใหญ่ๆ” ที่มาพร้อมกันก็คือ กทม. จะดำเนินการดังกล่าวโดยให้บริษัท กรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นบริษัทลูกของตน ทำสัญญากับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายหนึ่ง ให้เป็นผู้รับเหมาบริการโครงข่ายท่อร้อยสายใต้ดินทั้งหมด โดยให้สิทธิผูกขาดรายเดียวเป็นเวลา 30 ปี

ทั้งหมดนี้หมายความว่า ปัญหาการผูกขาดใหม่กำลังจะเกิดขึ้นในวงการโทรคมนาคมไทย เพิ่มเติมจากการผูกขาดที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน แน่นอนว่า การผูกขาดเหล่านี้จะเพิ่มภาระให้แก่ผู้บริโภค ทั้งประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจ ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้

ความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นในหลายรูปแบบ เช่น ผู้ประกอบการที่ได้สิทธิผูกขาดท่อร้อยสายอาจกีดกันผู้ประกอบการรายอื่นที่เป็นคู่แข่งของตนในตลาดโทรคมนาคมไม่ให้สามารถใช้ท่อได้ โดยอ้างเหตุต่างๆ ทางเทคนิค เช่น สัญญาณรบกวนกัน หรือให้ใช้ได้ แต่คิดค่าบริการแพงๆ หรือให้บริการช้าๆ หรือทำให้สายของคู่แข่งเสียบ่อยๆ จนไม่สามารถแข่งขันได้

ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่เรื่องวิตกกังวลที่เกินจริง หากพิจารณาถึงความหวาดระแวงของผู้ประกอบการแต่ละรายที่มีต่อกัน

แต่เดิมเรื่องนี้ไม่มีปัญหา เพราะผู้ประกอบการโทรคมนาคมทั้งหลายสามารถปักเสาสื่อสารเอง หรือพาดสายของตนบนเสาไฟฟ้าได้ แต่เรื่องที่เคยทำกันได้มานานก็กำลังจะกลายเป็นปัญหาในไม่ช้า เพราะเมื่อมีท่อร้อยสายใต้ดินแล้ว กทม. ก็จะห้ามพาดสายในที่สาธารณะ โดยอ้างเหตุผลด้านความสะอาดและความเป็นระเบียบ ตามกฎหมายรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ทั้งนี้ผู้ฝ่าฝืนก็จะมีโทษทางกฎหมาย และถูกสั่งให้รื้อถอนได้

 

แต่เดิมเรื่องนี้ไม่มีปัญหา เพราะผู้ประกอบการโทรคมนาคมทั้งหลายสามารถปักเสาสื่อสารเอง หรือพาดสายของตนบนเสาไฟฟ้าได้ แต่เรื่องที่เคยทำกันได้มานานก็กำลังจะกลายเป็นปัญหาในไม่ช้า เพราะเมื่อมีท่อร้อยสายใต้ดินแล้ว กทม. ก็จะห้ามพาดสายในที่สาธารณะ โดยอ้างเหตุผลด้านความสะอาดและความเป็นระเบียบ ตามกฎหมายรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ทั้งนี้ผู้ฝ่าฝืนก็จะมีโทษทางกฎหมาย และถูกสั่งให้รื้อถอนได้

เป็นความจริงครับว่า ท่อร้อยสายดังกล่าวเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีลักษณะ “ผูกขาดโดยธรรมชาติ” เพราะไม่ควรต้องมีการลงทุนซ้ำซ้อนกันหลายท่อ เหมือนกับการไม่ควรต้องมีสายไฟฟ้าหลายสาย หรือท่อน้ำประปาหลายท่อต่อเข้าบ้านแต่ละหลัง

ในต่างประเทศ เทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ มักจะเป็นผู้ดำเนินการท่อไร้สายด้วยตนเอง โดยเดินสายไฟเบอร์ไว้เสร็จสรรพในท่อร้อยสาย และเปิดให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ต้องการใช้ สามารถใช้ได้ในราคาที่กำหนด

การดำเนินการของ กทม. ดังกล่าวมาข้างต้นแตกต่างจากในต่างประเทศ และจะสร้างปัญหาด้วย 2 เหตุผลคือ หนึ่ง เป็นการโอนการผูกขาดของรัฐไปให้แก่เอกชน โดยเป็นการโอน 2 ต่อ ต่อแรกคือ โอนจาก กทม. ไปให้กรุงเทพธนาคมที่เป็นบริษัทลูกที่แสวงหาผลกำไร ต่อที่สองคือ โอนจากกรุงเทพธนาคมไปให้แก่เอกชนอีกที แน่นอนว่า เอกชนย่อมมีแรงจูงใจในการทำกำไรมากกว่ารัฐ ซึ่งจะทำให้เกิดการคิดบริการที่แพงกว่า ยิ่งการโอนสิทธิผูกขาดสองต่อ ก็จะยิ่งทำให้มีการบวกกำไรที่สูง 2 ครั้ง ราคาค่าบริการก็จะยิ่งแพงขึ้น

สอง เอกชนที่ได้สิทธิผูกขาดยังเป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ซึ่งแข่งกับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่นๆ ด้วย จึงเสี่ยงที่จะมีพฤติกรรมกีดกันการแข่งขันของผู้ประกอบการรายอื่น

หากเราปล่อยให้การดำเนินการเช่นนี้เกิดขึ้นในกรุงเทพ อีกไม่นานก็อาจเกิดการผูกขาดแบบเดียวกันทั่วประเทศ เพราะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ เช่น เทศบาลก็อาจจะทำตามในลักษณะเดียวกัน ถึงเวลานั้น ต้นทุนของบริการโทรคมนาคมทั้งประเทศไทยก็จะสูงขึ้นไปอีก และทำให้เราไม่สามารถแข่งขันใน “เศรษฐกิจดิจิทัล” ได้

ในความเห็นของผม เรื่องนี้มีทางออกง่ายนิดเดียวคือ การทำเหมือนต่างประเทศ นั่นคือ กทม. ควรเป็นผู้ให้บริการท่อร้อยสาย พร้อมไฟเบอร์เสียเอง และให้เอกชนแต่ละรายสามารถมาเช่าใช้ได้อย่างเสมอภาค ในราคาที่เหมาะสมคือสอดคล้องกับต้นทุน ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช.

หาก กทม. ไม่ดำเนินการตามที่เสนอ ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคก็ควรไปร้องเรียนกับ กสทช. และคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นใหม่ที่มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาด

ผมหวังว่า แนวคิดเรื่อง “สมาร์ทซิตี้” จะเป็นข่าวดีของประชาชน ไม่ใช่กลายเป็นข่าวร้ายที่มีหน่วยงานรัฐโอนสิทธิผูกขาดให้เอกชน และสร้างต้นทุนให้แก่ประเทศและประชาชน แบบที่เคยเกิดบ่อยๆ ในประเทศไทยนะครับ

“สมเกียรติ”อัด กทม.ให้เอกชนผูกขาดท่อร้อยสาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

● คุ้ยหลักฐาน กทม.ส่อพิรุธท่อร้อยสาย

● แจงสัมปทานท่อร้อยสาย 2หมื่นล้าน30ปีโปร่งใส

● จี้รื้อสัมปทานทรูบิ๊กสื่อสารรุมต้านผูกขาด30ปีท่อร้อยสาย

● เปิดปูมท่อร้อยสาย 2หมื่นล้าน

● ทรูร่อนหนังสือแจงยังไม่ลงนามสัญญาท่อร้อยสายกทม.

● เบื้องหลังกทม.หักดิบ ยึดโครงการท่อร้อยสาย2หมื่นล.

● 6ยักษ์สื่อสารจี้นายกฯ เบรกท่อร้อยสายกทม.2หมื่นล.

● ท่อร้อยสายวุ่น จ่อรื้อสัญญาทรู

● ไขปม ท่อร้อยสาย ให้สิทธิ์เอกชน80%ไม่ผูกขาด

● ใคร...ลุยไฟ ใช้เงิน2.5หมื่นล้าน เพื่อสัมปทานท่อร้อยสาย 30ปี

● บิ๊กกรุงเทพธนาคม โต้ทุกข้อกล่าวหา ท่อร้อยสายสื่อสาร 2 หมื่นล้าน

● กทม.ลักไก่ ท่อร้อยสาย ไร้ราคากลาง

● ท่อร้อยสายใต้ดิน โอนผูกขาด อำนาจรัฐสู่เอกชน

● ‘รสนา’ชี้ทิ้งทวนท่อร้อยสาย ก่อนหมดวาระผู้ว่าฯกทม.

●  สหภาพแคทฯ ร้องนายก ค้านท่อร้อยสาย

● ‘TOT-CAT’ ดับเครื่องชน ท่อร้อยสายกทม.

● ‘ทีโอที’ฮึดสู้! ปรับราคาท่อร้อยสาย

● 'กทม.' หน้ามืดตามัว มีใบอนุญาต 15 ปี ให้สัมปทาน 30 ปี

● ชำแหละผูกขาด ท่อร้อยสาย 2.5 หมื่นล้าน

● ธนาคมฯฝืนกระแสจ่อเซ็นสัญญากับทรูฯ มูลค่า 2.5 หมื่นล้าน

● กสทช.สั่งรื้อโครงการท่อร้อยสายกทม.