นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า สำหรับคลื่นความถี่ 26GHz ที่ ดีแทค ประมูลได้จำนวน 2 ชุดชุดละ 100 MHz รวมทั้งสิ้น 200 MHz จะให้ความเร็วที่มากขึ้น ความหน่วงต่ำมาตราฐานเดียวกับเยอรมนี อังกฤษ สเปน และหลายๆ ประเทศในยุโรป ซึ่งสามารถนำมาให้บริการ 5G อินเทอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ไร้สายประจำที่ ซึ่งจะทำความเร็วได้สูงสุดราว 1Gbps ในพื้นที่ที่กำหนดเปิดให้บริการ คาดว่าจะเปิดให้บริการราวครึ่งปีแรกของ ปี 2563
ปัจจุบัน ดีแทค มีคลื่นความถี่ สูง คือ 26GHz,คลื่นย่านความถี่กลาง ประกอบด้วยคลื่น 2300MHz,2100 MHz และ1800 MHz และย่านความถี่ต่ำ 900 MHz และ 700 MHz ครบทั้งหมด สามารถให้บริการได้ครอบคลุม และการใช้งานดาต้าที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดีแทค จะเพิ่มสถานีฐานในคลื่น 2300MHz เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 สถานีฐาน ในปี 2020 และเปลี่ยนอุปกรณ์เป็น Ultra capacity Massive MiMo technology (คือการใช้งานที่ต้องการ ความสามารถในการส่งข้อมูลที่มีความเสถียรมาก รวมทั้งมีความหน่วงเวลา (latency) หรือความหน่วงในการ ส่งข้อมูลต่ำในระดับ 1 มิลลิวินาที) ทั่วไทยในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่น
สำหรับตัวเลขการเติบโตการใช้งานดาต้าในปี2561 ความเร็วอยู่ที่ 8GB ต่อเดือน เพิ่มเป็น 11GB ต่อเดือน เติบโต 35% และคาดว่าในปีนี้เพิ่มเป็น 16GB เติบโตขึ้น 50%
ส่วนในปีนี้เน้นการพัฒนา 3 ด้านหลักๆ ได้แก่ เพิ่มประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้า, พัฒนาเครือข่ายให้แข็งแกร่ง และปรับปรุงองค์กรให้มีความกระชับ คล่องตัวง่าย อย่างเช่น customer experience ปรับปรุงให้ง่าย ตรงใจลูกค้า และกลุ่มธุรกิจที่นำ solution ใช้ได้จริง
การปรับปรุงองค์รองรับสู่อนาคต ทั้งสร้าง dtac DNA ให้เป็นรูปธรรม การเน้นการทำงานที่ใช้ data มากขึ้น นำกระบวนการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ โดยครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บข้อมูล หรือ Data Science และนำ เอไอ มาใช้เพิ่มขึ้น 50%
ขณะที่ Open Signal ได้รายงานว่า เครือข่ายที่โหลดข้อมูลได้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ ดีแทค เชิญชวนลูกค้าตั้งชื่อสัญญลักษณ์เป็นตัวแทน”DTAC” อีกด้วย