นายเควิน ทีโอ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Funding Societies กล่าวว่าตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2558 Funding Societies ได้มุ่งหน้าเพิ่มการเข้าถึงเงินทุน เพื่อลดช่องว่างทางการเงินกว่า 10 ล้านล้านบาทในกลุ่ม SME ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบัน Funding Societies ได้กระจายเม็ดเงินไปแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยปล่อยสินเชื่อกว่า 2 ล้านสินเชื่อให้กับธุรกิจ SME ขนาดย่อม ในประเทศสิงคโปร์มาเลเซีย และอินโดเซีย ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เงินกู้ระยะสั้น, สินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ, สินเชื่อซัพพลายเชน, หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้ตอบโจทย์ SME ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยขนาดของสินเชื่อเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 บาท จนไปถึง 45 ล้านบาท
“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งนักลงทุนทั้งรายใหม่และรายเดิม รวมไปถึงธนาคารรายใหญ่ในประเทศอินโดนีเซียร่วมลงทุนในรอบนี้ นั่นหมายความว่าเราเองจะสามารถเร่งให้บริการและช่วยเหลือทางด้านสินเชื่อให้กับ SME ได้มากขึ้นและมีส่วนช่วยให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเงินทุน ซึ่งในปีนี้เราตั้งใจขยายธุรกิจมายังประเทศไทย และในขณะเดียวกัน รักษาความเป็นผู้นำด้านสินเชื่อดิจิทัลในตลาดอื่น ๆ ทั่วภูมิภาค”
จากข้อมูลของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มากกว่า 90% ของบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยเป็น SME ซึ่งเอื้อให้เกิดการจ้างงานกว่า 50% ของตำแหน่งงานทั้งหมดในประเทศ อย่างไรก็ตาม ช่องว่างด้านเงินทุนมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท ก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของไทย เนื่องจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคนั้น ยังคงต้องพึ่งพากลุ่มธุรกิจ SME เป็นอย่างมาก แต่เนื่องจาก SME ไทยก็มีข้อจำกัดทางด้านเครดิต ทำให้การอนุมัติสินเชื่อเป็นไปได้ยาก เพราะสถาบันทางการเงินแบบดั้งเดิมมักจะปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่และมั่นคงมากกว่า ในขณะเดียวกันประชากรไทยส่วนใหญ่มีพฤติกรรมพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีอัตราการเข้าถึงสมาร์ทโฟนกว่า 70% จากจำนวนประชากรทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่เป็นที่มีศักยภาพสูงสำหรับแพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัล
นวัตกรรมนำธุรกิจ
นายอีวาน เคอเนียวาน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Modalku (บริษัทลูกของ Funding Societies ในประเทศอินโดนีเซีย) กล่าวว่า “เรามีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าแพลตฟอร์มและความสำเร็จจากการให้บริการสินเชื่อดิจิทัลในอินโดนีเซียที่มีสภาวะของตลาดคล้ายคลึงกับประเทศไทย จะทำให้ Funding Societies เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับ SME ไทย ด้วยเทคโนโลยีและการให้บริการทางการเงินที่สะดวกรวดเร็ว ยืดหยุ่น และไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต COVID-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจในแทบทุกอุตสาหกรรมในปัจจุบัน”
Funding Societies ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลในการประกอบธุรกิจด้านสินเชื่อระหว่างบุคคลในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดเซีย รวมทั้งดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารชั้นนำหลายแห่งในภูมิภาค โดย Funding Societies ทำหน้าที่เป็นบริการเสริมของธนาคารพาณิชย์ ดูแลการบริการทางเงินให้กับ SME ขนาดย่อมที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคาร และในปี 2563 นี้ Funding Societies มีความตั้งใจที่จะเข้ามามีบทบาทในการให้การสนับสนุน SME ไทยและช่วยผลักดันการพัฒนาของเศรษฐกิจไทยด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทยที่ต้องการพาประเทศไทยก้าวสู่ยุค Thailand 4.0 ด้วยนโยบายที่สนับสนุนให้มีการใช้นวัตกรรมนำธุรกิจ