นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า เอคเซนเชอร์ ได้ประสานความร่วมมือกับหอการค้าไทยในการเปิดตัวแพลตฟอร์ม “People + Work Connect” เพื่อสนับสนุนองค์กรธุรกิจของไทยในการบริหารอุปสงค์และอุปทานด้านแรงงาน หรือจัดการตำแหน่งงานต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยได้ระบบอนาลิติกส์บนแพลตฟอร์ม People + Work Connect เป็นตัวช่วย
โดยแพลตฟอร์ม People + Work Connect นี้ ออกแบบร่วมกันโดยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของเอคเซนเชอร์, Lincoln Financial Group, ServiceNow และ Verizon โดยเอคเซนเชอร์รับหน้าที่พัฒนาแพลตฟอร์มขึ้นมาจากการประชุมร่วมกันและต่อยอดแนวคิดเริ่มต้นจนสำเร็จภายใน 14 วันทำการ ปัจจุบันมีองค์กรมากมายหลายแห่ง จากหลากหลายอุตสาหกรรม เข้ามามีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มนี้อย่างรวดเร็ว อาทิ ภาคบริการทางการเงิน อุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร นํ้ามันและก๊าซ
แพลตฟอร์มระหว่างธุรกิจดังกล่าว จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ที่มีความพร้อม สามารถแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์และทักษะของพนักงานที่ถูกเลิกจ้างหรือพักงาน ให้แก่บริษัทอื่นที่กำลังมองหาคนทำงานบนแพลตฟอร์มได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แพลตฟอร์มนี้เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่โยงใยเข้ากับหลากหลายอุตสาหกรรม สามารถช่วยเติมเต็มตำแหน่งหรือทักษะใกล้เคียงกันซึ่งเป็นที่ต้องการ จากอุตสาหกรรมหนึ่ง ไปยังอีกอุตสาหกรรมที่มีตำแหน่งงานเปิดอยู่ เพื่อให้ในท้ายที่สุด จะสามารถลดระยะวงจรการว่างงานที่ซับซ้อนให้สั้นลงได้ ระบบอนาลิติกส์ที่ทำงานบนแพลตฟอร์ม จะดึงเอาข้อมูลรวมที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนตัวของคนทำงานมาประมวลและจำแนกตามกลุ่ม เช่น เมืองที่อยู่ที่ทำงาน และประสบการณ์ เป็นต้น
“แพลตฟอร์ม People + Work Connect ทำให้เห็นข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ว่าบริษัทใดกำลังต้องการคนทำงาน และมีความต้องการจากที่ไหน ออกแบบมาเพื่อช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ไวรัส ทำให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น ในการยกระดับความเป็นอยู่ของคนในประเทศไทย”
นายนนทวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า“วิกฤตการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการว่างงาน มีคนที่ต้องหางานใหม่มากมาย การเชื่อมโยงเครือข่ายกับบริษัทที่มีความต้องการจ้างงานบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เข้ากับกลุ่มคนทำงานที่มีในตลาด เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้รองรับความต้องการของผู้คน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง อนาลิติกส์ เข้ามาใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับประเทศ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมแรงร่วมใจครั้งนี้ จะทำให้เราสามารถช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบได้โดยเร็วและตรงจุด
ด้านนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การนำแพลตฟอร์มกลางมาใช้จับคู่ความต้องการนี้ มีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มสมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยแล้ว จำนวน 30 บริษัท และยังมีสมาชิกอีกหลายรายที่เตรียมจะเข้ามาร่วมใช้แพลตฟอร์มดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือภาคแรงงานให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปให้ได้ เพราะภาคแรงงานถือเป็นฟันเฟืองสำคัญ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะร่วมมือกันช่วยเหลือให้แรงงานไทย มีอาชีพ และมีรายได้ที่มั่นคง”
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,580 หน้า 16 วันที่ 4 - 6 มิถุนายน 2563