นางสาวศุภักษร แซ่ลิ้ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอเชีย ดาต้า เดสตรัคชั่น จำกัด (ADD) ผู้ให้บริการด้านการลบข้อมูลและกำจัดสินทรัพย์ด้านไอทีแห่งแรกในประเทศไทย กล่าวว่า“ทุกวันนี้ เราทุกคนมีข้อมูลจำนวนมากในรูปแบบของอีเมล ภาพ เอกสาร โพสต์เฟซบุ๊ก หรือแม้กระทั่งข้อความไลน์ ที่อาจเป็นอันตรายต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม 2564 จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่บุคคลและบริษัทองค์กรต่าง ๆ จะต้องเข้าใจว่าพวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบข้อมูลที่พวกเขามีตามกฎหมาย”
บริษัทจัดหาขั้นตอนที่ปลอดภัยตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การเก็บอุปกรณ์ไอทีที่หมดอายุการใช้งานผ่านระบบขนส่งโลจิสติกส์ที่ปลอดภัย ไปจนถึงการทำลายข้อมูลตามมาตรฐานทั้งแบบ on-site หรือที่โรงงานของบริษัทในเขตชานเมือง ลูกค้าสามารถนัดแนะเวลาการเก็บอุปกรณ์ บริษัทจะติดตามการขนส่งแบบเรียลไทม์ด้วยระบบ GPS จากสำนักงานใหญ่ของ ADD การกำจัดหรือทำลายข้อมูลจะดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยี Blancco ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์การลบข้อมูลที่ได้รับการรับรองที่ทันสมัยที่สุด โดยมีหน่วยงานกลาโหมและสถาบันการเงินขนาดใหญ่ทั่วโลกให้ความเชื่อถือ
กระบวนการทำลายข้อมูลทั้งหมดของบริษัท ตั้งแต่ในรูปแบบของการลบล้างข้อมูล บดย่อยทำลาย ไปจนถึงการล้างสนามแม่เหล็ก ดำเนินการตามมาตรฐานสูงสุดระดับสากล และผ่านการรับรองจากสถาบันที่มีชื่อเสียง อาทิ สถาบัน National Institute of Standards and Technology (NIST) และ National Association for Information Destruction (NAID) ซึ่งได้รับการยอมรับจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ อเมริกา
“เมื่อดูจากปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน เช่น สมาร์ทโฟนเก่า แท็บเล็ต แล็บท็อป คอมพิวเตอร์พีซี เซิร์ฟเวอร์ หน้าจอ เครื่องพรินเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีเก่าอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องลบและกำจัดข้อมูลอย่างมืออาชีพและชาญฉลาด ADD พร้อมเสนอบริการดังกล่าวเพื่อความสะดวกสบายและเป็นมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับลูกค้า”
นางสาวศุภักษร กล่าวต่อไปว่าบริการซื้อคืนอุปกรณ์ไอทีที่ยังไม่เก่ามากและสามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ของ ADD จะช่วยให้บริษัทลูกค้าเปลี่ยนขยะอิเล็กทรอนิกส์ของพวกเขาให้กลายเป็นรายได้ โดยนำอุปกรณ์ไอทีที่ได้รับการซ่อมแซมและปรับปรุงใหม่ไปขายในตลาดมือสอง คาดการณ์ว่าตลาดกำจัดสินทรัพย์ไอทีโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 2.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568 เพิ่มขึ้นจากมูลค่าราว 1.37 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2561 คิดเป็น 12% ของอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น (Compound Annual Growth Rate: CAGR) ระหว่างช่วงปี 2562-2568 เลยทีเดียว
“ในฐานะผู้บุกเบิกบริการด้านการกำจัดสินทรัพย์ไอทีในประเทศไทย เรามีความยินดีที่ลูกค้าบริษัทในประเทศและต่างประเทศมีความสนใจที่จะกำจัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่าของพวกเขาแบบมืออาชีพ” นางสาวศุภักษร กล่าว “เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องดูแลสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมและส่งผลดีต่องบดุลของบริษัท”
ปัจจุบัน ADD ให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 500 รายในไทยและต่างประเทศ ในแถบเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ทั้งให้บริการโดยตรงและผ่านเครือข่ายพันธมิตรบริษัทที่ได้รับการรับรอง