เร่งดันไอโอที ‘ซิกส์ฟอกซ์’ ชนโอเปอเรเตอร์ 5G

นายปวิณ วรพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด ผู้ให้บริการเครือข่ายไอโอทีระดับโลกซิกส์ฟอกซ์ (Sigfox) และโซลูชันไอโอทีครบวงจร เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแม้ว่าจะเกิดวิกฤติโควิด-19 แต่บริษัทยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต ออฟ ติงส์ หรือ ไอโอที (Internet of Things: IoT) ในไทย โดยมองว่า ไอโอที เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่สำคัญขับเคลื่อนทุกภาคส่วนในโลกยุค New Normal ทั้งนี้จะมุ่งเดินหน้าธุรกิจภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย 1. การวางโครงข่ายให้บริการไอโอที ระดับโลก ซิกส์ฟอกซ์ (Sigfox) ครอบคลุมการให้บริการ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และ 7 จังหวัด สมาร์ทซิตี้ ตามแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 และคาดว่าจะ ขยายให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วไทยภายในสิ้นปี 2563

2. กลยุทธ์การเร่งสร้างพันธมิตรช่องทาง ในการนำเสนอโครงการนำไอโอทีไปประยุกต์ใช้ใน 6 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มโรงพยาบาล และสุขภาพ, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มโลจิสติกส์, กลุ่มเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทซิตี้ สมาร์ทบิลดิ้ง, กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และกลุ่มสาธารณูปโภค โดยภายในปีนี้จะมีพันธมิตรช่องทางในแต่ละกลุ่ม 3 ราย, 3. กลยุทธ์การสร้างระบบนิเวศ หรืออีโคซิสเต็มส์ ไอโอที ภายใต้โครงข่ายให้บริการ “ซิกส์ฟอกซ์” ขึ้นมาในไทย ทั้งช่องทางจำหน่าย ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้พัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจจับในประเทศ ผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน และผู้ให้บริการคลาวด์ และ 4. กลยุทธ์ทางด้านการตลาด ที่จะมุ่งการจัดสัมมนาให้ความรู้กับภาคอุตสาหกรรมเป้าหมาย และการสร้างการรับรู้แบรนด์

“ในยุคที่ข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นตัวจักรสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและความได้เปรียบ ทุกภาคส่วนจึงต้องปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ให้เต็มที่ ก้าวข้ามข้อจำกัดที่เคยมี ไอโอที จึงเป็นคำตอบ โดยเทคโนโลยี ไอโอทีมีบทบาทสำคัญในการเก็บและรวบรวมข้อมูลผ่านอุปกรณ์หรือเซนเซอร์ ช่วยให้องค์กรต่างๆ ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้ดีขึ้น สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และปรับปรุงคุณภาพของเครื่องจักรและระบบได้ทันท่วงที”

ปวิณ วรพฤกษ์

ขณะเดียวกัน การนำเทคโนโลยีไอโอทีมาใช้ยังช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาไปสู่รูปแบบบริการต่างๆ ได้ เช่น การทำระบบอัตโนมัติ การติดตามผลและเฝ้าระวัง การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น การแสดงผล เป็นต้น นอกจากนี้ ตัวระบบยังสามารถประยุกต์ใช้ได้ตามความต้องการ และสามารถส่งต่อข้อมูลที่เก็บไว้เพื่อการทำการวิเคราะห์ชั้นสูง หรือบิ๊กดาต้าได้อีกด้วย

นายปวิณ กล่าวต่อไปว่าเทคโนโลยีภายใต้บริการเครือข่ายไอโอทีระดับโลกซิกส์ฟอกซ์ (Sigfox) ที่แตกต่างจากการให้บริการไอโอทีของโอเปอเรเตอร์เครือข่าย 5G แต่องค์กรสามารถประยุกต์ใช้ทั้งคู่ได้ จุดแข็งของซิกส์ฟอกซ์ คือ มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีไอโอทีเพียงอย่างเดียว โดยมีโครงข่ายให้บริการ 70 ประเทศทั่วโลก ซิกส์ฟอกซ์ เป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ LPWAN เป็นเทคโนโลยีการสื่อสาร ไร้สายระยะไกลที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลตํ่า (Low Power Wide Area Network: LPWAN) แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ 5 ปีโดยไม่ต้องชาร์จ ค่าบริการถูกโดยมีอัตรา 250 บาทต่อปีต่อ 1 อุปกรณ์ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์แบบสำเร็จ พร้อมแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาวิจัยและพัฒนา

ปัจจุบัน บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด ภายใต้การร่วมทุนของ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวของไทยในการดำเนินธุรกิจโครงข่าย อินเตอร์เน็ต ออฟ ติงส์ หรือไอโอที ด้วยเทคโนโลยีซิกส์ฟอกส์ (Sigfox) ให้บริการเกี่ยวกับไอโอทีแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การกำหนดกลยุทธ์ การวิเคราะห์ข้อมูลด้านไอโอที รวมทั้งชุดอุปกรณ์เซ็นเซอร์สำเร็จ แพลตฟอร์มและโซลูชันไอโอที อาทิ Asset tracking management, การบริหารจัดการของเสีย (Waste management), สมาร์ทโซลูชันความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม (Safety and Environmental), Smart farming, Smart city ซึ่งครอบคลุมทุกธุรกิจตั้งแต่ B2B จนถึง B2C 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,593 หน้า 16 วันที่ 19 - 22 กรกฎาคม 2563