นางสเตฟานี่ เดวิส กรรมการผู้จัดการ Google เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยในงาน Google for Thailand ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ว่า กูเกิลยังเดินหน้าเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยตลอดทั้งปีนี้กูเกิลจะให้การสนับสนุนความสำเร็จของประเทศไทยระยะยาว โดยเราจะช่วยเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 3 เท่าในปี 2568 โดยกูเกิลมีแผนขยายโครงการฝึกอบรมทักษะต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทย และผู้ประกอบการธุรกิจสามารถใช้เทคโนโลยี เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จ และเติบโตขึ้น
ขณะเดียวกันจะเดินหน้าต่อเนื่องเพื่อลดความเลื่อมลํ้าด้านทักษะดิจิทัล โดยจะให้การสนับสนุนเครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นแก่ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และจะให้การสนับสนุนครีเอเตอร์ และศิลปินชาวไทย ในการสร้างฐานผู้ชม และชุมชนของพวกเขาต่อเนื่อง ผ่านแพลตฟอร์มยูทูบ กูเกิลอาร์ตแอนด์คัลเจอร์ โดยทั้งหมดกูเกิลจะทำงานใกล้ชิดกับพันธมิตรในไทย
“ปีที่ผ่านมากูเกิลได้ประกาศพันธกิจ มุ่งช่วยให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันในโลกดิจิทัล โดยได้สนับสนุนการรับมือโควิด-19 ของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งให้ข้อมูลสุขภาพที่เชื่อถือได้ ช่วยให้คนสามารถทำงานและเรียนรู้ที่บ้าน และสนับสนุนเครื่องมือทางดิจิทัลธุรกิจเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ตอนนี้คนไทยเริ่มมองถึงอนาคตหลังโควิดกันแล้วเราเชื่อมั่นว่านี่คือช่วงเวลาแห่งโอกาส โดยเราพร้อมสนับสนุนการสร้างอนาคตดิจิทัลที่แข็งแกร่งสำหรับประเทศไทยด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันบนโลกดิจิทัล”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“สมคิด”จีบ "กูเกิล” ตั้งเฮดควอเตอร์ในไทย
นางแจ็คกี้ หวาง ผู้จัดการ Google ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่ากูเกิลประเทศไทย ได้เปิดตัวโครงการใหม่ของ Grow with Google ภายใต้ชื่อ สะพานดิจิทัล “Saphan Digital” ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์และพันธมิตรองค์กรธุรกิจชั้นนำจากอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มุ่งให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการ บุคคลทั่วไป และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ให้เข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลและเรียนรู้ทักษะดิจิทัลจากผู้เชี่ยว ชาญเพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจับคู่กับผู้ประกอบการและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อรับประสบการณ์จริงจากการใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อทำงานกับองค์กรต่างๆ
“โครงการ Saphan Digital เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของ Google ที่ต้องการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีกว่า 1.3 ล้านรายที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสถานการณ์โควิด-19 เราตระหนักดีว่า “นิว นอร์มอล” ที่เกิดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ต้องหันมาทำธุรกิจแบบออนไลน์เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าต่อไปได้ ดังนั้น พวกเขาจึงควรได้รับการเสริมสร้างความรู้และทักษะดิจิทัลที่เหมาะสมกับธุรกิจของพวกเขา”
นอกจากนี้กูเกิลยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและช่วยให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น กูเกิลจึงได้พัฒนาประสบการณ์การใช้งานบน Google Maps สำหรับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผู้ใช้ในไทยจะได้พบกับสถานที่ใหม่ๆ เช่น ร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวในทางวัฒนธรรมไทย ตามคำแนะนำของ YouTube ครีเอเตอร์ และอีกหนึ่งฟีเจอร์คือ Plus Codes ที่ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือไม่มีที่อยู่ที่ชัดเจนสามารถระบุตำแหน่งที่อยู่ของตนเองได้อย่างแม่นยำ เพื่อทำให้การเข้าถึงด้านการดูแลสุขภาพหรือการจัดส่งพัสดุสินค้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ด้านนางสาวอภิชญา เตชะมหพันธ์ หัวหน้าฝ่าย Google Customer Solutions ประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “โครงการ Saphan Digital มีบทบาท หลักด้านการสนับสนุนด้านทักษะ ดิจิทัลและเครื่องมือจากกูเกิลรวมทั้งการฝึกอบรมโดยผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่างๆ ได้แก่ การธนาคาร อี-คอมเมิร์ซ บริการส่งของออนไลน์ การจัดหางานออนไลน์ และคอมมูนิตี้ สเปซ โดยการรวบรวมประสบการณ์ ความ เชี่ยวชาญและเครื่องมือดิจิทัลเข้าด้วยกันในครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้กับทุกคน โดยเฉพาะ ธุรกิจเอสเอ็มอีได้ยกระดับทักษะดิจิทัล และใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่”
ส่วนนายไมค์ จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้คนไทยทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกันในโลกดิจิทัล ภายใต้แนวคิด “Leave no Thai Behind” Google ได้ประกาศนำ G Suite for Education เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มด้านการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศหรือ Digital Education Excellent Platform (DEEP) ซึ่งจะทำให้ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาใน สถานศึกษาของรัฐบาลทั่วประเทศสามารถเข้าถึงเครื่องมือเพื่อการศึกษาของ Google ได้ฟรี โดยการช่วยให้นักเรียนนักศึกษาได้มีโอกาสในการเรียนรู้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์นั้นถือเป็นพันธกิจสำคัญของ Google ในการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืน”
นอกจากนี้ยังเปิดต้วโครง การใหม่ที่มีชื่อว่า “Developer Student Club” ที่ Google ได้ร่วมมือกับตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอม เกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสร้างชุมชนนักพัฒนาโปรแกรมที่แข็งแกร่งในรั้วมหาวิทยาลัยของไทย โดย Developer Student Club จะเป็นกลุ่มชุมชน สำหรับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ สนใจเทคโนโลยีต่างๆ ของ Google โครงการนี้จะสนับสนุนให้น้องๆ นักศึกษาได้พบ ปะและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ผ่านการทำเวิร์กช็อป รวมทั้งเปิดโอกาสให้ทำโปรเจ็กต์ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาในท้องถิ่น”