นายนรบดี ผดุงเจริญ และ นายจิรัฏฐ์ กุลทรัพย์มงคล ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท คิวเปอร์ จำกัด ผู้พัฒนา QPER (คิวเปอร์) แอพพลิเคชัน ร่วมกันเปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจ ภายในประเทศทำให้คนตกงานมากขึ้นมีรายได้ลดลง จึงเกิดแนวคิดที่จะพัฒนา QPER แอพพลิชัน “คนหางาน ได้หาเงิน” เพื่อเป็นตัวกลางให้คนไทยมีงาน สร้างรายได้ ทั้งอาชีพหลักและอาชีพเสริม โดยจากผลสำรวจพบว่าคนไทยจำนวนมากทั้งในภาคอุตสาหกรรมการผลิต การท่องเที่ยว ฯลฯ ถูกเลิกจ้าง บางส่วนถูกปรับลดเงินค่าจ้างสมทบกับนักศึกษาจบใหม่ที่จะว่างงาน และเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ยากขึ้น จึงเชื่อว่าการเปิดตัวคิวเปอร์ในช่วงวิกฤติจะช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศรวมทั้งช่วยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้
“ที่ผ่านมาเราพึ่งพาและใช้บริการแพลตฟอร์มต่างประเทศเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, Youtube ฯลฯ ซึ่งทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ แต่คิวเปอร์ เป็นกลุ่มสตาร์ทอัพสัญชาติไทย สำหรับช่วยหางานและเพิ่มช่องทางในการหารายได้เป็นกระเป๋าเงินใบที่ 2 และใบที่ 3 ซึ่งจะเป็นเงินที่หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจไทย 100%”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมการจัดหางาน เตรียมเปิดรับสมัครงาน 90,000 อัตรา
: กระทรวงแรงงานเร่งหามาตรการรองรับนศ.จบใหม่ - พนง.ที่ถูกเลิกจ้าง
สำหรับแอพพลิเคชัน QPER จะเป็นตัวกลางที่ผู้ให้ บริการ หรือ provider และผู้รับบริการหรือ user มาเจอกัน ด้วยระบบ “เรดาห์” ที่ถูกพัฒนาขึ้นในรูปแบบ Consumer to Consumer หรือ C2C ให้ได้มากที่สุด ทำให้ผู้ให้บริการและผู้รับบริการหากันเจอในระยะใกล้ เปิดโอกาสให้ทุกคน ทุกสาขาอาชีพ หารายได้ตลอด 24 ชั่วโมงใกล้บ้าน อาทิ แม่บ้าน, คนขับรถ, ช่างไฟ, ติวเตอร์, เทรนเนอร์, ไกด์นำเที่ยว, นักการตลาด ฯลฯ ซึ่งระบบ เรดาห์ จะทำให้ผู้ให้บริการและผู้รับบริการหากันเจอในระยะใกล้ โดยมีจุดเด่นคือ ระบบแชทที่ใช้ตกลงค่าบริการตามความพึงพอใจ รวมทั้งระบบจ่ายเงินที่สามารถจ่ายได้ทันทีในแชท ไม่ต้องออกจากแอพพลิเคชันเพื่อไปโอนเงินผ่านระบบต่างๆ ของธนาคารให้ยุ่งยาก
ซึ่งการลงทะเบียนคิวเปอร์ สำหรับผู้ให้บริการ (Provider) จะมีค่าใช้จ่ายเพียง 2 ส่วน คือ 1. ค่าบริการเปิดร้านให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการมองเห็นเรดาห์วันละ 1 บาท (ภายใน 24 ชั่วโมง) เพื่อกันคนไม่พร้อมให้บริการเปิดหน้าร้านทิ้งไว้ โดยมีแพ็กเกจให้เลือกตั้งแต่ 30 วัน ถึง 1 ปี และ 2. ค่าบริการดำเนินการที่เกิดจากการว่าจ้างจริงของผู้ให้บริการในอัตรา 9% ของรายได้ที่ว่าจ้างจริง ซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการบริหารจัดการ ค่าการตลาด ค่าดูแลระบบ ฯลฯ ซึ่งอัตราดังกล่าวนี้ตํ่ากว่าบริการของแอพพลิเคชันอื่นๆ ในตลาดค่อนข้างมาก และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพื่อเป็นการช่วยเหลือคน ไทยบริษัทจึงได้จัดแคมเปญ “ไทยช่วยกัน” เพื่อช่วยให้ “คนที่หางาน ได้หาเงิน” โดยยกเว้นค่าบริการเปิดร้านวันละ 1 บาท จนกว่าประเทศไทยจะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19
ทั้งนี้คิวเปอร์ตั้งเป้าที่จะให้คนไทยมีงาน มีรายได้และมีเงินหมุนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ โดยในช่วง 1-2 ปีแรกจะใช้งบประมาณราว 30-50 ล้าน บาทเพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการโดยเบื้องต้นคาดว่าจะเข้าถึงกลุ่มผู้ให้บริการในทุกสาขาอาชีพไม่ตํ่ากว่า 8 ล้านคน ทั้งนี้คาดว่าถึงสิ้นปี 2563 นี้จะผู้ลงทะเบียนและใช้งานในระบบไม่ตํ่ากว่า 100,000 ราย และมีเม็ดเงินหมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศผ่านแอพพลิเคชันคิวเปอร์ ประมาณ 200-300 ล้านบาท และปี 2564 ตั้งเป้าเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศรวมกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท
: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,608 หน้า 16 วันที่ 10-12 กันยายน 2563