เริ่มต้นจาก “วีโว่” ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 3 ของตลาดช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาไล่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดปลายปี เริ่มต้นสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ Vivo X50 Pro 5G ผสานรวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ กล้องหลักของ X50 Pro 5G มาพร้อมกับระบบกล้อง Gimbal ชั้นนำของอุตสาหกรรมเพื่อลดการสั่นไหว ช่วยให้ถ่ายภาพและวิดีโอที่ชัดขึ้นขณะกำลังเคลื่อนไหวหรือแม้ในเวลากลางคืน กล้องหน้า 32MP หนึ่งตัวและกล้องหลังสี่ตัว (กล้องหลัก 48MP, กล้องซูเปอร์ไวด์ 8MP, กล้องถ่ายภาพบุคคลระดับมืออาชีพ 13MP, และกล้องเทเลสโคปิค 5 เท่า 8MP) เลนส์เทเลสโคปิค 5 เท่าใน X50 Pro 5G ยังรองรับไฮเปอร์ซูม 60 เท่า
ล่าสุดวีโว่ ได้เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง V20 ซีรีส์ สู่ตลาดไทย จุดขายของ V20 คือสมาร์ทโฟน 5G ที่บางสุดในโลก และเป็นสมาร์ทโฟนเซลฟี่ ที่มีกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44 ล้านพิกเซล ที่เก็บได้ครบทุกรายละเอียดในระยะใกล้สูงสุดถึง 15 เซนติเมตรและซูมได้ไกลกว่าด้วยระยะโฟกัส แบบไม่จำกัด พร้อมด้วยกล้อง Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอีกตัวเพื่อเก็บรายละเอียดภาพมุมกว้างได้ดีขึ้น VIVO V20 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ระบบโฟกัสด้วยสายตา (Eye Autofocus) สามารถตรวจจับทุกความเคลื่อนไหวและการแสดงอารมณ์
ส่วนค่ายโซนี่ ไทย ส่ง “Xperia 1 II” (อ่านว่า เอ็กซ์พีเรีย วัน มาร์ค ทู) สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโซนี่ที่ได้รับการออกแบบมาให้รองรับการเชื่อมต่อแบบ 5G และหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการเชื่อมต่อ ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยแบตเตอรี่มีความจุ 4000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Xperia 1 II มาพร้อมกล้อง 3 เลนส์ที่เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Sony Alpha และ ZEISS พร้อมกับเซ็นเซอร์ 3D iToF ที่จะช่วยคำนวณระยะห่างระหว่างกล้องกับวัตถุ เพื่อการโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำ
โดยมีระบบออโต้โฟกัสที่เร็วที่สุดในโลกสูงถึง 20 เฟรมต่อวินาที พร้อมการคำนวณระยะของระบบโฟกัส (AF) และระบบวัดแสง (AE) อยู่ที่ 60 ครั้งต่อวินาที รวมถึงระบบ Real-time Eye AF จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อตรวจพบดวงตาบุคคลหรือสัตว์ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Cinematography Pro by CineAlta ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเฟรมเรทได้เหมือนกับการถ่ายโหมด Manual ในกล้อง Mirrorless ทั่วไป อีกทั้งยังสามารถปรับโฟกัสภาพและ White Balance ได้ด้วยตัวเอง
ขณะที่ค่าย เรียลมี ต่อยอดสมาร์ทโฟนระดับกลาง (ไม่เกินหมื่นบาท) ด้วยการเปิดตัว realme 7 Pro ที่ตัวเครื่องมีการปรับดีไซน์โฉมใหม่ จุดเด่นที่น่าสนใจของ realme 7 Pro ก็คือรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh จากระดับ 0-100% ได้ในเวลาเพียง 34 นาที มาพร้อมเทคโนโลยีการควบคุม และระบายความร้อนที่ช่วยไม่ให้ตัวเครื่องร้อนจนเกินไป รวมถึงระบบป้องกัน 5 แกนอัจฉริยะ สำหรับเพิ่มความปลอดภัยตั้งแต่ตัวอแดปเตอร์ไปจนถึงตัวเครื่อง ด้วยการควบคุมปริมาณการจ่ายกระแสไฟ ช่วยให้มีความปลอดภัยมากขึ้น แม้ใช้งานระหว่างชาร์จ\
ส่วนพี่ใหญ่ค่ายแอนดรอยด์โฟน อย่าง “ซัมซุง” ได้เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นพิเศษ Samsung Galaxy S20 Fan Edition หรือ S20 FE ในวันที่ 23 กันยายน 2563 โดย Galaxy S20 FE ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของเหล่าคนรุ่นใหม่ และเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการแสดงออกถึงตัวตนและความชอบได้อย่างอิสระมากขึ้น โดยมีสีให้เลือกมากถึง 6 สี