นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีที จำกัด ประจำประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ และลาว กล่าวว่า ปัจจุบันนี้องค์กรธุรกิจต้องการโซลูชั่นเพื่อสนับสนุนการทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ซึ่งไว้วางใจให้เราเป็นคู่ค้าในการให้บริการ Microsoft Licensing Solution Provider (LSP) สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ โดยเอ็นทีทีพร้อมที่จะเป็นส่วนช่วยเร่งกระบวนการพัฒนาและฟื้นฟูศักยภาพของธุรกิจให้ขับเคลื่อนไปสู่ดิจิทัลและลดต้นทุนการดำเนินงานให้กับองค์กร
ด้านการให้บริการของเอ็นทีที ได้รวมถึงการพัฒนาและสร้างแอพพลิเคชั่นดิจิทัลที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้าด้วย Microsoft 365 โดยเราสามารถให้บริการสำนักงานในรูปแบบ Modern Workplace ที่มีความปลอดภัยเพื่อให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกัน ได้ทุกที่ ทุกเวลา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้งาน Microsoft Teams ที่มีฟังก์ชันในการโทรและการประชุมเพื่อมอบประสบการณ์การทำงานร่วมกันและความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับพนักงาน โดยภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยเอ็นทีทีได้ผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกและความเชี่ยวชาญด้านบริการเข้ากับแพลตฟอร์ม Microsoft Azure เพื่อสร้างโซลูชั่นที่ล้ำสมัยสำหรับลูกค้า และให้การดูแลลูกค้าในทุกขั้นตอนในระหว่างการย้ายไปอยู่บนระบบคลาวด์ ตั้งแต่การย้ายเวิร์คโหลดการทำงาน, การจัดการระบบไฮบริดคลาวด์ ไปจนถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
เอ็นทีที ตั้งเป้าได้รับ 100 ใบรับรองจากไมโครซอฟท์ภายในปลายปีนี้ พร้อมกันนี้ได้สร้าง Center of Excellence ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้พนักงานมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าแบบ end to end ตั้งแต่การดูแลในเรื่องของอุปกรณ์ไปจนถึงระบบคลาวด์ ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์ธุรกิจให้กับลูกค้าแบบครบวงจร โดยมีทีมงานบริการมากกว่า 700 คนในการดูแลและจัดการทุกระบบไอทีด้านการบริหารจัดการ (Managed Service) ให้ทุกองค์กรด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์
ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่นทางธุรกิจระดับโลก เอ็นทีที พร้อมนำเสนอบริการแบบครบวงจรแก่ลูกค้ารวมถึงการให้คำปรึกษาทางธุรกิจด้านดิจิทัลและบริการการบริหารจัดการสำหรับความปลอดภัยไซเบอร์, แอพพลิเคชั่น, คลาวด์, ดาต้าเซ็นเตอร์ และบริการด้านเครือข่าย
สำหรับ เอ็นทีที ประเทศไทย ในฐานะคู่ค้าในการให้บริการ Microsoft Licensing Solution Provider (LSP) ของไมโครซอฟท์ ด้วยแพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง Microsoft Azure และการทำงานบน Microsoft 365 ที่สามารถเชื่อมต่อบนคลาวด์ ซึ่งช่วยให้การทำงานในองค์กรง่ายขึ้น รวมถึงการผสานรวมในรูปแบบ Cloud Collaboration จากทั้งการประชุมผ่านทางโทรศัพท์ และวิดีโอสตรีมมิ่ง จากหลากหลายแพลตฟอร์มให้สามารถทำงานร่วมกันได้ นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรม AI ที่จะเข้ามาช่วยในส่วนของการให้บริการระบบศูนย์บริการข้อมูล หรือ Call Center และระบบการทำงานในสำนักงานแบบอัตโนมัติ หรือ Robotic Process Automation (RPA) ให้ทำงานเชื่อมโยงกันได้อย่างราบรื่น
"ด้วยความเชี่ยวชาญของเอ็นทีทีและไมโครซอฟท์ ซึ่งได้ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน จะทำให้ความร่วมมือของเราลึกซึ้งยิ่งขึ้นในการจัดหาโซลูชั่นที่เปี่ยมประสิทธิภาพให้กับลูกค้า เรามีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการเสริมสร้างศักยภาพให้กับองค์กรและสังคมด้วยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดและปลอดภัยเพื่ออนาคตที่ดีและยั่งยืน” นายสุทัศน์ กล่าวสรุป
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือระดับโลกระหว่างไมโครซอฟท์และเอ็นทีทีให้ครอบคลุมถึงประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ เราจะร่วมกันขับเคลื่อนภาคธุรกิจของไทยให้เกิดความแข็งแรง คล่องตัวและยืดหยุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ทุกองค์กรต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากโควิด-19 ผมมั่นใจว่าทางเอ็นทีทีจะสามารถสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยได้อย่างรอบด้าน เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับกลยุทธ์หลักขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เราพร้อมที่จะร่วมมือกับเอ็นทีทีเพื่อช่วยให้ทุกลูกค้า ทุกองค์กร ได้นำดิจิทัลมาเพิ่มศักยภาพเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า"
ทั้งนี้ เอ็นทีที ได้รับแต่งตั้งให้เป็น Microsoft Licensing Solution Provider (LSP) และ Microsoft Cloud Solution Provider (CSP) กับทางไมโครซอฟท์ โดยจะเป็นการซื้อลิขสิทธิ์แบบข้อตกลงองค์กรรองรับสำหรับกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ขนาดกลางและ ขนาดเล็ก สามารถใช้สิทธิในองค์กรเชิงพาณิชย์ องค์กรภาครัฐ และองค์กรทางการศึกษา ซึ่งเหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ บริการคลาวด์ หรือบริการทั้งสองอย่างของไมโครซอฟท์