ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เปิดเผยว่า สกสว. ขานรับนโยบายมุ่งสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดี รองรับการเปลี่ยนแปลงทุกมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีและวิถีชีวิต โดยเฉพาะทักษะที่จำเป็นต่อชีวิตในยุคปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งเพิ่มคุณลักษณะที่พึงประสงค์บางประการสำหรับสังคมไทย อาทิ คุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ภูมิคุ้มกัน ทางใจ เป็นต้น ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่จำเป็นสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขในสังคม และเพื่อสานต่อภารกิจเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง รวมทั้งแก้ไขวิกฤตประเทศ โดยในปี 64 ได้รับอนุมัติงบประมาณ 19,917 ล้านบาท เน้นด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข
ในขณะที่ปี 63 ได้รับงบประมาณ 12,555 ล้านบาท ได้ผลักดันหลายโครงการแล้วเสร็จ ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ อาทิ พัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยที่สามารถตรวจวินิจฉัย SARS-CoV-2 ด้วยวิธี Real-Time PCR ที่สามารถตรวจจากสารคัดหลั่งที่เก็บได้ง่าย เช่น น้ำลาย ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงาน ลดขั้นตอนการสกัดสารพันธุกรรม ทำให้การตรวจวินิจฉัยมีความรวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย, ชุดตรวจแลมป์เปลี่ยนสีสำหรับการตรวจคัดกรองโควิด-19 โดยพัฒนาปรับปรุงชุดตรวจคัดกรองจนมีประสิทธิภาพสูง ทราบผลภายใน 1 ชั่วโมง มีต้นทุนการวิเคราะห์ถูก, ชุด PPE และอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อใช้ในประเทศ และสร้างนวัตกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ภายในประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ในสภาวะวิกฤต ซึ่งสามารถทดแทนการนำเข้าได้ถึง 300 ล้านบาท/ปี เป็นต้น
รองศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เสริมว่า การจัดงานประชุมชี้แจงระบบ แผน แนวทางการจัดทำคำขอและการขอรับการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 65 ขึ้น เพื่อสร้างความเข้าใจในการยื่นขอเสนองบประมาณแก่หน่วยงานที่สนใจ จำนวน 24,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 64 ร้อยละ 22.50 หรือ4,483 ล้านบาท
ภายใต้กรอบงบประมาณด้าน ววน. ประจำปีงบประมาณ 65 ที่มีแผนงานต่อเนื่องใน 4 แพลตฟอร์ม และโปรแกรมการปฏิรูประบบ ววน. ตามแผนด้าน ววน. พ.ศ. 63 – 65 (ฉบับปรับปรุง) ซึ่งประกอบด้วย แพลตฟอร์มที่ 1 การพัฒนากำลังคน แพลตฟอร์มที่ 2 การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม มุ่งเน้นการบริหารจัดการน้ำ และคุณภาพสิ่งแวดล้อม แพลตฟอร์มที่ 3 การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ให้แก่ SMEs Startup, Genomics และ BCG เพื่อพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม และแพลตฟอร์มที่ 4 การวิจัยและสร้างนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนของประชาชน และในปี 65 นี้ได้เพิ่มโปรแกรมการแก้ไขปัญหาวิกฤตเร่งด่วนของประเทศ
ศาสตราจารย์ ดร. สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจบริหารระบบงบประมาณ สกสว. กล่าวว่า สำหรับแนวทางการจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานในระบบ ววน. ปี 64-66 กำหนดแนวทางการบริหารงบประมาณแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ เช่น มีการจัดสรรงบประมาณแบบวงเงินรวม มีความคล่องตัวและยืดหยุ่นทันต่อการเปลี่ยนแปลงของประเทศ จัดสรรงบประมาณแบบต่อเนื่องแบบหลายปี โดยใช้ระบบข้อมูลสารสนเทศวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเชื่อมโยงข้อมูลทุกระดับ เพื่อลดความซ้ำซ้อนของงาน สกสว. แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1) ทุนสนับสนุนงานพื้นฐาน (Fundamental Fund) ที่แบ่งย่อยออกเป็น Basic Research Fund ที่จะจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานวิจัยพื้นฐานที่เป็นการพัฒนานักวิจัย และสร้างความเข้มแข็งของงานวิจัยให้กับสถาบันอุดมศึกษา และ Function-based Research Fund จัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานที่มีภารกิจเฉพาะ ที่ไม่ใช่สถาบันอุดมศึกษา
ซึ่งทุนสนับสนุนงานพื้นฐาน (Fundamental Fund) สามารถยื่นข้อเสนอโครงการผ่านหน่วยงานต้นสังกัดภายใต้คําของบประมาณของหน่วยงาน ผ่านระบบ National Research Innovation Information System (NRIIS) ได้ที่ เว็บไซต์ www.nriis.in.th ระหว่างวันที่ 2 พ.ย.63- 9 ธ.ค.63 และ 2) ทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) จัดสรรเป็น 4 แพลตฟอร์ม 17 โปรแกรม บริหารจัดการโดยหน่วยบริหารและจัดการทุน (PMU) เป็นการทำงานวิจัยที่เน้นตอบยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยสามารถยื่นข้อเสนอโครงการได้ตลอดทั้งปีผ่าน 7 PMU สำหรับสัดส่วนงบประมาณระหว่างทุนสนับสนุนงานเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) ต่อทุนสนับสนุนงานพื้นฐาน (Fundamental Fund) อยู่ที่ 60: 40