ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน สินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของเมืองไทย (Exchange) เผยถึงมุมมองต่อสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมกล่าวถึงเหตุการณ์ ณ ปัจจุบัน ที่นักลงทุนประเทศไทยหันมาให้ความสนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลให้มีสมาชิกใหม่เข้ามาลงทะเบียนเพื่อใช้บริการแพลตฟอร์มของ “ซิปเม็กซ์” (ZIPMEX) มากเป็นปรากฎการณ์ ตอบรับราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ที่ขยับราคาแตะหลักล้านบาทต่อ 1 บิทคอยน์
“ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการ (user) ที่เพิ่มขึ้นอย่างล้นหลามของนักลงทุนในปัจจุบัน ทางบริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบ รวมถึงการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้รองรับกับความนิยมที่พุ่งสูงขึ้น ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ที่ได้มาตรฐานของบริษัทฯ ผมเชื่อว่าความปลอดภัยและความมั่นคงถือเป็นหัวใจหลักในการทำงาน และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน ทางเราได้ทำประกันภัยกับ BitGo ในการรักษาและค้ำประกันสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มของเรา” ดร. เอกลาภ กล่าว
ด้านนายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการ “เว็บเทรดสตางค์โปร” (Satang Pro) ศูนย์ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำอีกแห่งในประเทศไทย เสริมความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนกรณีที่มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากจากปรากฏการณ์ความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น “เรามีทีมงานนักพัฒนาที่มุ่งเน้นการออกแบบระบบให้รองรับปริมาณลูกค้า และจำนวนธุรกรรมที่พุ่งสูงขึ้น ครอบคลุมถึงระบบการซื้อขาย ปริมาณลูกค้า และปริมาณธุรกรรมในปัจจุบัน รวมถึงการวางระบบงานแบบ Automate ที่ช่วยเสริมสร้างและรักษากลไกการทำงานของระบบซื้อขายให้มีความเรียบร้อย (Market Surveillance) อยู่ตลอดเวลา พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลระดับโลก ISO 27001 และ ISO 27701 มั่นใจได้ว่า ความเสถียรและปลอดภัยของสินทรัพย์ของผู้ลงทุนทุกท่าน คือหัวใจหลักของ สตางค์ โปร”
“การทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ เพราะเกี่ยวข้องกับ เงิน ๆ ทอง ๆ กำไร-ขาดทุน ที่ลูกค้าจะต้องบริหารความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะในสภาพตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ที่ สตางค์ โปร เรามุ่งมั่นซัพพอร์ตลูกค้าในทุกๆด้าน ตั้งแต่ระบบที่จะต้องรองรับทุกสถานการณ์ แผนงานพัฒนาคุณภาพกระดานเทรดอย่างต่อเนื่อง การดูแลความปลอดภัยของบัญชีและข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า เพื่อให้นักเทรดอุ่นใจว่าจะได้รับบริการที่ดี ปลอดภัย รวมไปถึงการให้ความรู้ด้านคริปโทเคอร์เรนซี และบล็อกเชน ตลอดจนร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย” นายปรมินทร์ กล่าว
ด้านนายพลากร ยอดชมญาณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาโตชิ จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มทางการเงินรูปแบบใหม่ในการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Exchange) ภายใต้แบรนด์ “คูแลป” (KULAP) กล่าวว่า “ทีมคูแลปเรามีความเชื่อมั่นว่าในอนาคตจะมีการแปลงมูลค่าของสินทรัพย์ต่าง ๆ มาอยู่ในรูปแบบของดิจิทัลมากขึ้น ไม่จำกัดว่าจะเป็นแค่สกุลเงิน แต่รวมถึงสินทรัพย์ทุกประเภท เช่น ทองคำ ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่หน่วยลงทุน อย่างเช่น หุ้น กองทุน หรือพันธบัตรต่าง ๆ เราในฐานะที่เป็นบริษัทนวัตกรรมการเงินรูปแบบใหม่ มีความตั้งใจให้บริการของเราช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบการเงินแบบดั้งเดิมทั้งในเรื่องต้นทุน และความรวดเร็วในการยืนยันธุรกรรม
ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล กล่าวปิดท้ายว่า “ขณะนี้เรากำลังเข้าใกล้จุดผันแปรในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีสถาบันการเงินขนาดใหญ่ และบริษัทต่างชาติเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดและลงทุนกับ “บิทคอยน์” จำนวนมาก สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าตลาดได้เติบโตเต็มที่ และด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาทางแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมสำหรับนักลงทุน “ซิปเม็กซ์” มีทีมงานที่ยอดเยี่ยม และมีประสบการณ์ด้านองค์กรการเงิน ตลอดจนระบบและโครงสร้างพื้นฐานระดับสถาบัน เราพร้อมอย่างเต็มที่และสามารถรับมือกับการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ ๆ ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและเพื่อนำลูกค้าของเราเข้าสู่โลกของการเงินดิจิทัลที่มั่นคงและยั่งยืน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พฤติกรรมแห่ซื้อ ดันราคาบิทคอยน์พุ่ง
ซีไอเอส เตือน ‘บิทคอยน์’ เสี่ยง ปรับฐานลง