มร. ชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า “ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เทคโนโลยีได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสถาบันการศึกษา และทำให้กิจกรรมทางการศึกษาดำเนินไปได้ตามปกติ และส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการเรียนการสอนให้น้อยที่สุด สถาบันการศึกษาหลายๆ แห่งจึงควรเริ่มมองหาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อปรับตัวเองสู่การเป็น Smart Education เพื่อให้สามารถสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว เชื่อมโยงนักเรียน ผู้ปกครอง และคุณครูให้มีส่วนร่วมกันมากขึ้น”
ในปีที่ผ่านมา โรงเรียนและสถานศึกษาในประเทศไทยต้องเผชิญกับอุปสรรค เนื่องจากต้องปิดทำการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้นักเรียนเกือบ 13 ล้านคนต้องอยู่บ้าน และคุณครูเกือบ 6 แสนคนไม่สามารถทำการสอนได้ตามปกติ และนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลไม่สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียม ดังนั้นโซลูชันใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถตามบทเรียนได้ทัน
“การปรับตัวเองสู่การเป็น Smart Education ของสถานศึกษา นั้นไม่เพียงแค่ช่วยลดช่องว่างเรื่องระยะทาง แต่ยังช่วยในการวิเคราะห์และพัฒนาหลักสูตรที่เอื้อให้นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนได้ในระดับความสามารถของตัวเอง การมีแพลตฟอร์มที่ครูและนักเรียนสามารถพูดคุยกันได้ รวมถึงการมีเครื่องมือที่ทำให้ครูสามารถออกแบบการสอนตามลักษณะการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการศึกษาในอนาคต โดยเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ เช่น การประมวลผลแบบคลาวด์ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence)” มร. ชาง กล่าวเสริม
Tencent Cloud Online Education Solutions เป็นโซลูชันที่ช่วยให้สถานศึกษาสามารถสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับแต่งโซลูชันได้ตามสถานการณ์ และความต้องการ โดยเป็นโซลูชันแบบ end-to-end ที่จะช่วยสร้างแพลตฟอร์มการศึกษาออนไลน์ตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้ เทนเซ็นต์ คลาวด์ยังมีผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่ช่วยเสริมศักยภาพให้กับแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้วเพื่อให้เกิดเป็นการศึกษาออนไลน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีคุณภาพ โดยโซลูชันนี้ครอบคลุมบริการดังต่อไปนี้
• โครงสร้างพื้นฐานและการบำรุงรักษา (Infrastructure and Maintenance) – บริการด้านทรัพยากร และการบริหารระบบปฏิบัติการคลาวด์แบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ ทั้งเซิร์ฟเวอร์ ฐานข้อมูล ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย ช่องสัญญาณ ระบบรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ เพื่อสร้างรากฐานแพลตฟอร์มการเรียนรู้แบบออนไลน์ให้กับสถาบันการศึกษาที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล
• การบริหารจัดการระบบ (Operational Management) – นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนไปสู่ยุคดิจิทัล เทนเซ็นต์ คลาวด์ยังนำมีบริการด้วยระบบซอฟแวร์ SaaS เพื่อให้สถาบัน การศึกษาสามารถดำเนินงานธุรการต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น เช่น การเปิดหลักสูตรต่างๆ การรับสมัครการลงทะเบียน การบริหารทรัพยากร จัดหรือปรับเปลี่ยนตารางเวลาของหลักสูตรต่างๆ ตลอดจนการออกประกาศนียบัตร
• โซลูชันสำหรับการจัดการห้องเรียนแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive Classroom Solutions) – โซลูชันสำหรับการทำ interactive classroom แบบครบวงจรผ่านการใช้ระบบปฏิบัติการณ์คลาวด์อัจฉริยะและเอไอ เพื่อมอบประสบการณ์การเรียนออนไลน์แบบเรียลไทม์ที่มีประสิทธิภาพผ่านสมาร์ท โซลูชันต่างๆ ของเทนเซ็นต์ คลาวด์
• เครื่องมืออัจฉริยะสำหรับช่วยด้านการสอน (Smart Teaching Tools) – คลาวด์มีโซลูชันด้านการสอนมากมายที่ทำงานโดยอาศัยระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยทุ่นเวลาและเพิ่มประสิทธิผลด้วยเทคโนโลยี Deep learning ของเทนเซ็นต์คลาวน์ ความสามารถของการจดจำใบหน้าและเสียง (face recognition/ voice recognition) รวมถึงความสามารถในการทำงานของระบบ Machine translation ของเทนเซ็นต์ จะสามารถรองรับการทำงานอัตโนมัติด้านการเรียนการสอนได้หลากหลายรูปแบบ
“ปัจจุบันทุกๆ ภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคการศึกษาต้องเร่งปรับตัวเพื่อก้าวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล เทนเซ็นต์ คลาวด์ ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการระบบปฏิบัติการคลาวด์ระดับโลก ที่มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ และยืดหยุ่น จึงมีความพร้อมที่จะมอบโซลูชันคลาวด์อัจฉริยะ เพื่อเป็นเครื่องมือที่สำคัญในสนับสนุนการศึกษาที่มีคุณภาพแก่ทุกคน และช่วยให้สถานศึกษาเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” มร. ชาง กล่าวสรุป