ผบ.ตร. สั่งไล่ล่าแก๊งค์หลอกลงทุน  Cryptocurrency

22 มิ.ย. 2564 | 10:41 น.

รองโฆษกตำรวจ เตือนภัยหลอกลงทุน Cryptocurrency ระบาดหนัก เผยกองปราบได้เข้าจับกุมขบวนการต่างชาติกว่า 60 คน หลอกลวงลงทุน Cryptocurrency ขณะที่ผบ.ตร.สั่งเร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมเร่งทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด ตัดโอกาสในการกระทำความผิดในอนาคต

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับการหลอกลวงให้ลงทุนเกี่ยวกับ Cryptocurrency ว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 64 กองบังคับการปราบปราม ได้เข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา เป็นชาวต่างชาติกว่า 60 คน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้มีพฤติกรรมในการหลอกลวงผู้เสียหายโดยการสร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมาหลอกให้ผู้เสียหายเชื่อว่าตนเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุน Cryptocurrency ก่อนจะใช้กลอุบายหลอกเอาเงินจากผู้เสียหายในที่สุด ซึ่งการกระทำที่เป็นขบวนการ ส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบ แล้วเข้าทำการจับกุมในเวลาต่อมา แสดงให้เห็นว่าการหลอกลงทุนลักษณะนี้กำลังแพร่ระบาด และมีการขยายตัวขึ้นจากที่การหลอกลวงแบบรายบุคคลเป็นการหลอกลวงในรูปแบบขบวนการ

ผบ.ตร. สั่งไล่ล่าแก๊งค์หลอกลงทุน  Cryptocurrency

โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2564 ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องทุกข์และแจ้งเบาะแสเข้ามาทางช่องทางต่างๆ ถึงลิงค์ที่เหล่ามิจฉาชีพมักจะหลอกให้เหยื่อเข้าไปแลกเปลี่ยน Cryptocurrency จำนวน 5 ลิงค์ ดังนี้ 1) bggbtc.xyz 2)Bitz Pro 3)BMEX global 4) binancepro-ex.com  5) shopeec.com ดังนั้นหากมีการชักชวนให้ลงทุนเกี่ยวกับ Cryptocurrency โดยผ่านลิงค์ดังกล่าวควรจะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธไป เนื่องจากการโอนเงิน crypto currency ผ่านทาง  blockchain ไม่มีหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรง หากเกิดความเสียหาย จะยากต่อการสืบสวนติดตาม ขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการลงทุน โดยเลือกลงทุนบนแพลตฟอร์มที่มีความน่าเชื่อถือ และอย่าหลงเชื่อการลงทุนที่ให้ผลประโยชน์ที่สูงเกินความเป็นจริง

การกระทำลักษณะดังกล่าวนอกจากจะเป็นการตอกย้ำพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกันอยู่แล้วและยังเข้าข่ายความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในฐานความผิดดังกล่าวเป็นความผิดต่อส่วนตัว ผู้เสียหายจะต้องมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ทั้งนี้พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายให้ทุกภาคส่วน เร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ให้ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบการกระทำความผิดต่างๆ และเร่งทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและตัดโอกาสในการกระทำความผิดในอนาคต

 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ถึงแนวทางการหลีกเลี่ยงป้องกันการถูกหลอกให้ลงทุนขอให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบให้ดี ว่าการลงทุนดังกล่าวนั้นน่าเชื่อถือหรือไม่ โดยสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้จาก https://coinmarketcap.com/rankings/exchanges/ หลีกเลี่ยงการลงทุนหรือข้อเสนอที่ฟังดูดีเกินกว่าจะเป็นไปได้ พึงระลึกไว้เสมอว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ” ขอให้พี่น้องประชาชนคอยติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อจะได้รู้ทันกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ นอกจากนี้หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตำรวจเตือนกลโกงออนไลน์หลอกซื้อ“Crypto”

ก.ล.ต.เตือน 6 ข้อควรระวังก่อนลงทุนคริปโต ในภาวะผันผวนสูง