ข้อตกลงนี้เป็นไปตามแผนการเดินหน้าขยายการเติบโตของ airasia super app ให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ Gojek สามารถเพิ่มการลงทุนในการดำเนินงานได้ โดยเฉพาะในตลาดเวียดนามและสิงคโปร์
ในทางกลับกัน Gojek จะเข้าถือหุ้นบางส่วนในแพลตฟอร์ม airasia super app ซึ่งมีมูลค่าประเมินทางตลาดอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างมีรากฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสใหม่ในการดำเนินธุรกิจและเติบโตร่วมกันอย่างมั่นคงและยั่งยืนในภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักของ airasia super app ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการเสริมศักยภาพและสร้างระบบนิเวศธุรกิจของ Gojek ให้ดีขึ้น โดยเฉพาะสำหรับพนักงานรับส่งของ ร้านค้า และลูกค้าด้วยสินค้าและบริการใหม่ๆที่มีมากขึ้น เช่น อาหาร ของชำ สินค้าเกี่ยวกับความงาม และการจัดส่งพัสดุด่วน ควบคู่ไปกับบริการเรียกรถรับ-ส่ง โดยตั้งเป้าขยายสู่ตลาดใหม่ในประเทศ อาทิ เชียงใหม่และภูเก็ตในอนาคตอันใกล้
แอพพลิเคชัน Gojek จะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ สำหรับผู้ใช้เพื่อรับบริการในกรุงเทพฯ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 จนกระทั่งรวมกับ airasia super app ในขณะที่พนักงานรับส่งของทุกคน และร้านค้า จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานกับ airasia super app เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้แอร์เอเชียจะทำงานร่วมกันกับทีมงาน Gojek ประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าการให้บริการของ Gojek เป็นไปอย่างราบรื่น โดยในช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนที่จะย้ายไปใช้ airasia super app จะเกิดการถ่ายทอด ส่งต่อข้อมูลและความเชี่ยวชาญด้านการตลาด ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความต้องการของผู้ใช้บริการชาวไทย เพื่อให้เกิดการบริการที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ความร่วมมือดังกล่าวยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ระดับนานาชาติของ Gojek ในเรื่องการเพิ่มการลงทุนการดำเนินงานในประเทศเวียดนามและสิงคโปร์ ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพและแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจในอนาคต ซึ่งรวมถึงการขยายแนวคิดริเริ่มในการขับเคลื่อนและการเข้าซื้อกิจการของผู้ค้า ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ ตลอดจนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
โทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย กล่าวว่า การประกาศในวันนี้คือ การเริ่มต้นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวอย่างยิ่งใหญ่กับ Gojek ของกลุ่มแอร์เอเชีย ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน
“ด้วยการผนึกกำลังและสานต่อธุรกิจที่มั่นคงของ Gojek ในประเทศไทย เชื่อว่าเราจะสามารถขับเคลื่อนความมุ่งมั่นของเราในพื้นที่นี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ”
เรามีระบบนิเวศธุรกิจดิจิทัลที่สมบูรณ์อยู่แล้ว รวมทั้งประสบความสำเร็จในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการด้านไลฟ์สไตล์ที่ไม่ใช่ของสายการบินกว่า 15 รายการบนแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัลของเราในมาเลเซีย ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้กลุ่มแอร์เอเชียก้าวขึ้นไปอีกขั้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในภูมิภาคที่หลากหลาย เรากำลังตั้งเป้าที่จะนำเสนอซูเปอร์แอปของเราไปยังตลาดหลักทั้งหมดของเรา หลังจากที่ประสบความสำเร็จได้อย่างดี
“ธุรกิจดิจิทัลทั้งหมดของเรากำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง และด้วยพันธมิตรนี้ เป้าหมายของเราในการเป็นแอปยอดเยี่ยมของอาเซียนกำลังจะกลายเป็นจริงอย่างรวดเร็ว”
เควิน อลูวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Gojek (โกเจ็ก) กล่าวว่า “ข้อตกลงนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของทีมในประเทศไทย ที่ขยายธุรกิจจากศูนย์สู่การเป็นผู้ให้บริการแบบออนดีมานด์ที่สร้างความแตกต่างให้กับผู้คนนับแสนหรือคนในประเทศ ธุรกิจนี้สร้างขึ้นจากความสามารถและความมุ่งมั่นอย่างมหาศาล และแน่นอนว่าจะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับพนักงานชาวไทยของเราและกลุ่มแอร์เอเชียตลอดการเปลี่ยนแปลงนี้ เราภาคภูมิใจและรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับทุกสิ่งที่ Gojek ประเทศไทย ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับผู้บริโภคชาวไทยที่ภักดี ผู้ขับขี่และคู่ค้าที่เป็นหัวใจสำคัญของสิ่งที่เราทำมาโดยตลอด
“แอร์เอเชีย ดิจิทัล และ airasia super app จะกลายเป็นพันธมิตรที่มีมูลค่าสูงสำหรับเรา เนื่องจากเรามีเป้าหมายเดียวกันในการนำเสนอบริการที่ดีขึ้นแก่ผู้ใช้ ในขณะเดียวกันก็ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ขับขี่และร้านค้า ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่ตลาดต่างประเทศไปยังเวียดนามและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดีที่สุดและโอกาสการเติบโตเชิงกลยุทธ์แก่เรา”
ไอรีน โอมาร์ ประธานแอร์เอเชียดิจิทัล กลุ่มแอร์เอเชีย กล่าวว่า การประกาศความร่วมมือครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของแอร์เอเชียและการเปลี่ยนจากสายการบินไปสู่ซุปเปอร์แอปไลฟ์สไตล์ครบวงจรที่เน้นการเดินทาง
สิ่งที่เราประสบความสำเร็จในมาเลเซียปีที่ผ่านมานั้นน่าทึ่งมาก รวมถึงการเปลี่ยนความคิดของ Allstars (คำที่ใช้เรียกพนักงานของแอร์เอเชีย) หลายพันคน จากการให้บริการเฉพาะสายการบินสู่การมุ่งเน้นด้านดิจิทัลนั้น ไม่ได้ไร้ประโยชน์ กลุ่มดิจิทัลของแอร์เอเชียประกอบด้วยบริษัทดิจิทัลหลัก 3 แห่ง ได้แก่ “airasia super app” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์สำหรับการท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ซ บริการทางการเงิน บริการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตรที่ขนส่งตรงจากฟาร์มผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพและการศึกษา “Teleport” บริษัทร่วมทุนด้านการขนส่งและลอจิสติกส์ของเรา เป็นบริษัทโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะให้บริการจัดส่งถึงบ้านทันที เช่นเดียวกับการส่งมอบภายใน 24 ชั่วโมงทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และธุรกิจฟินเทค “BigPay” ของแอร์เอเชียกำลังก้าวขึ้นเป็นรายแรกของภูมิภาคในฐานะผู้ให้บริการด้านธุรกรรมธนาคารแบบเสมือน (Virtual Bank)
“อนาคตเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นในขณะที่เรายังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย เพื่อเปิดรับยุคดิจิทัลอย่างแท้จริงและสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตประจำวันของผู้คน”
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า แบรนด์แอร์เอเชียมีความแข็งแกร่งในประเทศไทย และเรารู้สึกตื่นเต้นที่กลุ่มแอร์เอเชียริเริ่มความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีในระยะยาวทั้งกับสองบริษัทฯ รวมทั้งกับพนักงาน คนขับรถ และผู้ค้าของ Gojek ในประเทศไทย โดยไม่เพียงแต่จะสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางเเละขนาดย่อมในท้องถิ่นและซัพพลายเออร์อาหารสดเท่านั้น แต่เรายังจะสร้างโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับคนขับรถส่งของในตลาดใหม่ที่เราตั้งเป้าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้
“พฤติกรรมคนไทยคือสามารถในการปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัลได้ดี คุ้นชินกับรูปแบบไลฟ์สไตล์ผ่านโทรศัพท์มือถือ และกิจกรรมต่างๆแบบเรียลไทม์ รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ฟินเทค และความบันเทิงออนไลน์ จนเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวัน ผมเชื่อว่ากลุ่มแอร์เอเชีย จะสามารถต่อยอดธุรกิจจากสิ่งที่ Gojek ประสบความสำเร็จแล้วในกรุงเทพฯ ได้อย่างดี พร้อมก้าวสู่โอกาสใหม่เพื่อมอบความสะดวกสบายและการแข่งขันด้านราคาที่มากขึ้นสำหรับคนไทย”