ท่ามกลางสถานการณ์ COVID ที่ให้ผู้คนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่การซื้อสินค้าทางออนไลน์ส่งผลให้ภาพรวมของอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องติดอันดับ 1 ใน 5 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยอัตราการเติบโต 15% ต่อปี (ข้อมูลจาก eMarketer, 2020) โดยพบว่าหนึ่งในปรากฏการณ์สำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้ผู้คนนิยมซื้อสินค้าบนออนไลน์มากขึ้น เกิดจากประสบการณ์แห่งความสุขในระหว่างการซื้อสินค้า หรือที่เรียกว่า “Shoppertainment" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่ผู้คนจำนวนมากใช้การช้อปปิ้งเป็นวิธีในการสร้างความสุข สอดคล้องกับการสำรวจผู้ใช้ TikTok ในประเทศไทยพบว่า 2 ใน 5 ของผู้ใช้พบว่าการซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ช่วยให้มีความรู้สึกดีขึ้น ผ่อนคลายขึ้น และ 1 ใน 3 ของผู้ใช้รู้สึกว่าอยากให้การช้อปปิ้งมีความบันเทิงมากขึ้น จึงถือได้ว่า “Shoppertainment" เป็นปรากฏการณ์สำคัญของการผสานกันระหว่างการ Shopping และ Entertainment จนส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการจับจ่ายที่น่าสนใจของผู้คนในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์ม TikTok ที่ถือเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างพลังบวกและมอบความสุขและความบันเทิงให้กับผู้คนในปัจจุบัน
สำหรับเทศกาล Mega Sales ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป็นปรากฏการณ์สำคัญในวงการอีคอมเมิร์ซที่ขับเคลื่อนให้เกิดแรงกระตุ้นในการจับจ่ายและถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แบรนด์ต่างรอคอยที่จะพิชิตยอดขาย โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายที่ถือเป็นไฮไลท์ สำคัญของ Mega Sales ที่ทุกคนรอคอย ตั้งแต่ 9 เดือน 9, 10 เดือน 10, 11 เดือน 11, 12 เดือน 12 พร้อมด้วยเทศกาลช้อปปิ้งส่งท้ายปีที่มีต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นช่วงเวลาที่แบรนด์และผู้ประกอบการต่างงัดกลยุทธ์ มาพิชิตยอดขาย แต่ในขณะเดียวกันก็พบว่า 70% ของผู้ใช้ TikTok รอคอยและตื่นเต้นกับเทศกาล Mega Sales เช่นกัน
ปรากฏการณ์วิดีโอสั้นสู่การกระตุ้นการจับจ่ายแม้ไม่ได้อยู่ใน Wishlist
ในปัจจุบัน TikTok เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่กำลังได้รับความนิยม และยังเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้กับแบรนด์ได้ค้นพบกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ผ่านคอนเทนท์วิดีโอสั้นและการทำการตลาดคิจิทัลรูปแบบใหม่ผ่านโซลูชั่น TikTok For Business โดยพบว่า วิดีโอสั้นได้กลายมาเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อในกลุ่มนักช้อปออนไลน์ ล่าสุดจากผลสำรวจผู้ใช้ TikTok โดย AC Neilsen พบว่า
อีกทั้งยังพบว่าผู้ใช้ TikTok เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการค้นพบ และทดลองสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง Mega Sales ที่พบว่า
จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ #TikTokMadeMeBuyIt ที่แสดงให้เห็นว่ามีผู้คนมากมายซื้อสินค้าโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เกิดจากแรงกระตุ้นหลังจากได้ชมโฆษณาหรือคอนเทนท์บนแพลตฟอร์ม TikTok ส่งผลให้แฮชแท็กดังกล่าวมียอดวิวสูงถึง 3.6 พันล้าน
สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing ของ TikTok กล่าวว่า Mega Sales คือช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยและเป็นโอกาสสำคัญของแบรนด์ในสร้างยอดขายและตอบโจทย์พฤติกรรมนักช้อปในปัจจุบันที่นอกจากต้องการดีลที่ดีที่สุดแล้ว ยังต้องการประสบการณ์การจับจ่ายที่มาพร้อมความสุขหรือ Shoppertainment โดย TikTok ช่วยทำให้ผู้ใช้มีความสุขและนำไปสู่การอยากมีส่วนร่วมหรือการจับจ่ายใช้สอยกับแบรนด์ โดยความสุขที่เกิดขึ้นบน TikTok เกิดขึ้นจาก 3 ส่วนด้วยกัน คือ
“TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในช่วง Mega Sales ได้ด้วยการสร้างโอกาสที่แบรนด์จะได้ถูกค้นพบในช่วงเวลาที่ผู้ใช้ของเรามีความสุขในเทศกาลนี้ โดยเชื่อว่า Happy User หรือผู้ใช้ที่มีความสุข จะนำไปสู่ Happy Buyers หรือผู้ซื้อที่มีความสุขในการจับจ่ายใช้สอยเช่นกัน” สิรินิธิ์ กล่าว
สำหรับการวางกลยุทธ์เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเพิ่มยอดขายใน Mega Sales ควรมีการเริ่มสร้างแคมเปญโฆษณาล่วงหน้าอย่างน้อย 10-30 วันก่อนเริ่มแคมเปญ เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้บริโภคเริ่มทำการศึกษาหาข้อมูล โดย TikTok For Business ได้แนะนำ 3 กลยุทธ์หลักเพื่อการวางแผนโฆษณาและการตลาดดิจิทัลเพื่อส่งเสริมยอดขายในช่วง Mega Sales ไว้ดังนี้
TikTok For Business จะเป็นคำตอบที่สำคัญให้กับแบรนด์และธุรกิจที่ต้องการสร้างยอดขายในช่วงเทศกาล Mega Sales นี้ได้อย่างแน่นอน ด้วยความโดดเด่นของโซลูชั่นการตลาดดิจิทัลครบวงจรที่สามารถตอบโจทย์แบรนด์ได้อย่างครอบคลุม และความพร้อมของแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้และคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง ที่มาพร้อมเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพทั้งด้านการสร้างสรรค์และการสร้างผลลัพธ์ จึงทำให้ TikTok จะเป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับแบรนด์และธุรกิจที่ต้องการสร้างความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในเทศกาล Mega Sales ตลอดครึ่งปีหลังนี้