“ไม่เคยมีครั้งไหนที่ iPad จะจำเป็นสำหรับการทำงาน การเรียน และการสื่อสารเท่านี้มาก่อน และเรายังตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับการอัปเกรดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับ iPad ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด” Greg Joswiak รองประธานอาวุโสฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กล่าว “ด้วยชิป A13 Bionic อันทรงพลัง วิดีโอคอลที่น่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" และความจุที่มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า iPad ใหม่จึงมาพร้อมความสามารถอันล้ำสมัย ความอเนกประสงค์ และความเรียบง่าย ทั้งหมดนี้ในราคาที่ไม่น่าเชื่อ”
iPad ใหม่มาพร้อมชิป A13 Bionic อันทรงพลัง ที่มอบประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และทำให้ iPad ใหม่เร็วกว่า Chromebook รุ่นที่ขายดีที่สุดถึง 3 เท่า และเร็วกว่าแท็บเล็ต Android รุ่นที่ขายดีที่สุดอย่างเทียบกันไม่ติดถึง 6 เท่า โดยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแอปขั้นสูงและเกมบน iPad รุ่นที่เป็นเจ้าของได้อย่างต่อเนื่องและง่ายที่สุด Neural Engine ในชิป A13 Bionic ยังเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนความสามารถด้านการเรียนรู้ของระบบของอุปกรณ์ซึ่งรวมไปถึง คุณสมบัติ "ข้อความในภาพ" ใน iPadOS 15 ที่ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพและให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้
ประสบการณ์ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" บน iPad Pro มีให้ใช้งานแล้วบน iPad ด้วยประสิทธิภาพของกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP และ Neural Engine ผู้ใช้จึงสามารถเพลิดเพลินกับวิดีโอคอลที่น่าสนใจยิ่งกว่าที่เคย โดยในขณะที่ผู้ใช้ขยับไปมา กล้องจะแพนตามการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในสายตาเสมอ และถ้ามีคนอื่นมาร่วมด้วย กล้องก็สามารถตรวจจับได้ และจะซูมออกอย่างลื่นไหลเพื่อจัดให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนา คุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" ทำให้การโทรวิดีโอคอลใน FaceTime เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ทั้งยังรวมไปถึงแอปวิดีโอคอลจากบริษัทอื่นด้วย ดังนั้น ไม่ว่าจะอัปเดตข่าวคราวกับคนสำคัญ หรือใช้ iPad ในการเรียนรู้จากระยะไกล คุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" ก็ช่วยให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อทั้งดึงดูดและน่าสนใจยิ่งกว่าที่เคย
เป็นครั้งแรกที่การแสดงผลแบบ True Tone มาในจอภาพ Retina ที่สวยงามบน iPad เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบที่อัปเกรดมาใหม่ทำให้สามารถใช้งานการแสดงผลแบบ True Tone ซึ่งจะปรับคอนเทนต์บนหน้าจอให้สอดคล้องกับอุณหภูมิสีของห้อง การแสดงผลแบบ True Tone บน iPad ใหม่ทำให้รูปภาพดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์การดูที่สบายตายิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้ในทุกสภาพแสง
ด้วยดีไซน์ที่บางและเบา พร้อมตัวเลือกระบบเซลลูลาร์ iPad มอบอิสระแก่ผู้ใช้ในการทำงาน เรียน เล่น และเชื่อมต่อทั้งที่บ้านหรือขณะเดินทาง iPad ใหม่เริ่มต้นที่ความจุ 64GB ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า จึงหมายถึงความคุ้มค่าที่มากขึ้นสำหรับผู้ใช้ iPad ด้วย และยังมีตัวเลือก 256GB สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเก็บแอป เกม รูปภาพ และวิดีโอได้มากขึ้น
iPadOS 15 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวของ iPad ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้ความอเนกประสงค์ของ iPad ให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่าเดิม
• การทำงานแบบมัลติทาสก์ที่ง่ายดายขึ้นกว่าเดิมด้วยการทำให้คุณสมบัติอย่าง Split View และ Slide Over สามารถค้นพบได้ง่ายขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งทรงพลังกว่าเดิม
• ส่วนเลย์เอาท์วิดเจ็ตใหม่สำหรับหน้าจอโฮมและคลังแอปช่วยให้สามารถปรับแต่งประสบการณ์การใช้งาน iPad ให้เหมาะกับบุคคลรวมถึงจัดระเบียบแอปได้
• และตอนนี้การจดโน้ตก็สามารถทำได้แล้วทั้งระบบด้วย Quick Note ที่มอบวิธีใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกันและจัดระเบียบสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหรือพิมพ์ด้วย Apple Pencil
• แอปแปลภาษามาอยู่บน iPad พร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ทำให้การสนทนาง่ายและเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิม ซึ่งรวมไปถึงการแปลภาษาอัตโนมัติ และมุมมองแบบเห็นหน้าด้วย
• คุณสมบัติ "ข้อความในภาพ" ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพแล้วให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้ ตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายหน้าร้านอาจแสดงหมายเลขโทรศัพท์และตัวเลือกให้โทรไป
• โหมดโฟกัสช่วยผู้ใช้คัดกรองการแจ้งเตือนตามสิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน เช่น ทำงาน อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เล่นเกม หรือนอนหลับ
• การโทร FaceTime ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วยระบบเสียงตามตำแหน่งและโหมดภาพถ่ายบุคคลใหม่ และตอนนี้การโทร FaceTime แบบกลุ่มยังมีตัวเลือกให้แสดงผู้เข้าร่วมเป็นช่องภาพขนาดเท่าๆ กันในมุมมองตารางแบบใหม่อีกด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย
• iPad รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 11,400 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular เริ่มต้นที่ 16,400 บาท ในสีเงินและสีเทาสเปซเกรย์ iPad ใหม่เริ่มต้นที่ความจุ 64GB มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า และยังมีตัวเลือก 256GB วางจำหน่ายเช่นกัน
• iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ จะเปิดให้ใช้งานโดยเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 21 กันยายน และจัดส่งฟรีพร้อม iPad ใหม่ iPadOS 15 จะเปิดให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ iPad mini 4 และใหม่กว่า, iPad Air 2 และใหม่กว่า, iPad รุ่นที่ 5 และใหม่กว่า และ iPad Pro ทุกรุ่น
• Apple Pencil (รุ่นที่ 1) ที่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad (รุ่นที่ 9) มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 3,400 บาท
• Smart Keyboard สำหรับ iPad มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 5,290 บาท ซึ่งมาพร้อมเลย์เอาท์กว่า 30 ภาษา รวมถึงจีนตัวย่อ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ญี่ปุ่น และสเปน
• Smart Cover สำหรับ iPad มีวางจำหน่ายในราคา 2,290 บาท ในสีดำ สีขาว และสีอิงลิชลาเวนเดอร์